วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลดความอ้วนง่ายๆ ... ด้วยการดื่มน้ำผลไม้



ถ้า พูดถึงผลไม้เรารู้กันอยู่แล้วว่าส่วนมากนั้นประโยชน์หลักที่สาวๆ สนใจคือช่วยในเรื่องของการลดความอ้วน บางคนอยากผอมค่ะมื้อเย็นงดและทานผลใม้ไม่อ้วนแทน แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่นะค่ะไม่บางชนิดก็มีน้ำตาลสูงกินมากๆ อาจจะทำให้อ้วนได้ เพราะฉะนั้นแล้วถึงจะทานผลไม่ก็ต้องเลือกที่มีกากใยอาหารสูง แต่น้ำตาลน้อย และมีวิตมินซีสูง นี่แหละค่ะที่จะเป็นเคล็ดลับ ลดความอ้วนง่ายๆ  ของสาวๆ แล้วการทานผลไม้ที่สาวๆ ให้ความนิยมจะมาในรูปแบบของเหลว หรือที่เรียกว่าน้ำผลไม้ น้ำผลไม้นั้นสกัดออกจากผลไม่ก็จริงนะค่ะ แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซน ไหนจะผสมนู้น นี่ นั้น แต่งกลิ่น แต่งสี ที่สำคัญน้ำตาลเยอะมากๆ ตัวอ้วนเลยหล่ะค่ะ แต่เพราะความง่าย และสะดวกสาวๆ ก็เลยจำเป็นขนาดนั้นแต่ก็ยังยึดหลักไม่อยากอ้วนอยู่ดี วันนี้เราก็เลยมีทริป ลดความอ้วนง่ายๆ ... ด้วยการดื่มน้ำผลไม้ มาฝากกันค่ะ ทีนี้ต่อให้ดื่นน้ำผลไม้มากแค่ไหนก็ไใช่ประเด็ด งั้นเอาเป็นว่าตอนนี้เราไปดูกันเลยดีกว่านะค่ะว่าทริปการ ลดความอ้วนง่ายๆ ... ด้วยการดื่มน้ำผลไม้ ที่เราได้นำมาฝากนี้จะเป็นอย่างไร

 เผยเคล็ดลับ ลดความอ้วนง่ายๆ

ผล ไม้ดีอย่างไร ข้อนี้ไม่ต้องพูดยืดยาว เพราะเป็นที่รู้กันว่า ผลไม้โดดเด่นในเรื่องให้วิตามิน เกลือแร่ที่สำคัญๆ ต่อร่างกาย ยังมีใยอาหาร และก็ให้พลังงานด้วย ผลไม้เป็นอาหารที่มีข้อดีโดดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความอร่อย รสชาดมีให้เลือกทั้งเปรี้ยว หวาน มัน กลิ่นหอม สีสวย มีให้เลือกลิ้มชิมรสหลายหลายจริงๆ ใครไม่ชอบกินผลไม้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ผลไม้มีรสหวานตามธรรมชาติ ซึ่งรสหวานนั้นเย้ายวนให้ผู้กินหลงไหลติดในรสชาดหวานได้ง่ายๆ และความหวานนี้ก็คือน้ำตาลธรรมชาติที่อยู่ในผลไม้นั่นเอง ที่นี้ความหวานหรือน้ำตาลมักเป็นอุปสรรคของคนที่เป็นเบาหวาน เพราะต้องระมัดระวังปริมาณน้ำตาลในร่างกาย ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานจึงควรกินผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เกณฑ์โดยทั่วไปสำหรับคนที่เป็นเบาหวานสามารถกินผลไม้ได้ ครั้งละ 1 ส่วน / มื้ออาหาร ออกกำลังกาย

ปริมาณผลไม้ 1 ส่วน จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณคาร์โบไฮเดรต ในผลไม้ชนิดนั้นๆ ซึ่งพอจะคำนวณปริมาณได้ง่ายๆ ดังนี้
ผลไม้ผลเล็ก : 1 ส่วน = 4 – 8 ผล เช่น ลำไย ลองกอง เงาะ องุ่น
ผลไม้ผลกลาง : 1 ส่วน = 1 – 2 ผล เช่น ส้ม ชมพู่ กล้วยน้ำว้า
ผลไม้ผลใหญ่ : 1 ส่วน = 1 / 2 ผล เช่น มะม่วง ฝรั่ง แอปเปิล
ผลไม้ผลใหญ่มาก : 1 ส่วน = 6 – 8 ชิ้นพอคำ เช่น สับปะรด แตงโม มะละกอ

ผล ไม้หลายชนิดกินแบบสดๆ แล้ว ยังนิยมทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม เพื่อความสดชื่นและแก้กระหายด้วย คนเป็นเบาหวานสามารถดื่มน้ำผลไม้ได้เช่นกัน เพียงแต่ดื่มให้พอเหมาะ อย่าติดใจในรสชาดจนดื่มเพลินมากเกินไป

น้ำ ผลไม้คั้นสด (ไม่มีกาก) ดื่มได้ครั้งละไม่เกิน 1/2 ถ้วยตวง (120 ซีซี) การดื่มน้ำผลไม้แต่ละครั้งปริมาณมากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและยากต่อ การควบคุม ออกกำลังกาย

คน เป็นเบาหวาน ที่ต้องการดื่มน้ำผลไม้ปริมาณมากขึ้น อาจทำเป็นน้ำผลไม้ปั่น โดยใส่ผลไม้ชิ้นปริมาณตามที่กินได้ใน 1 ส่วน เติมน้ำแข็งได้ตามชอบ ปั่นให้ละเอียด แต่ที่สำคัญคือต้องไม่เติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมอย่างเด็ดขาด ถ้าต้องการรสหวานเพิ่มให้ใช้น้ำตาลเทียมแทนเท่านั้น

ที่มา..n3k.in.th

เคล็ดลับผอมเพรียว....ได้ง่ายๆ






หุ่น ดีผอมเพรียวเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ยากและดูจะสิ้นหวังสำหรับสาวๆ เหลือเกิน ก็เพราะว่าเรื่องกินนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะการกินจุกกินจิกเนี้ย เป็นเรื่องที่ถนัดเลยจร้า จะให้มาหยุดกันนะหรอค่ะ หึหึ อย่าฝัน และจะบอกว่าการกินนี่นะเป็นอะไรที่สร้างความฟินให้สาวๆ เป็นอย่างมาก และนี่แหละค่ะที่เป็นสาเหตุให้เกิดคำว่าอ้วนได้ แต่ว่าวันนี้เราอยากจะบอกว่าสาวๆ อย่าได้กังวลใจไปเลยค่ะเพราะว่าวันนี้ทาง N3K ได้นำเอา เคล็ดลับผอมเพรียว....ได้ง่ายๆ มาฝากสาวๆ กันค่ะ อะๆ เริ่มจะฟินกันแล้ว งั้นเอาเป็นว่าตอนนี้เราอย่ามัวรอช้าอยู่เลยนะค่ะ เราไปดูกันเลยดีกว่านะค่ะว่าเคล็ดลับผอมเพรียวที่เราได้นำมาฝากกันนี้จะเป็น อย่างไร แล้วจะสามารถช่วยสาวๆ ได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปดูกันได้เลยจร้า Let's go จร้า

 เคล็ดลับผอมเพรียว

1. เลิกให้รางวัลตัวเอง
ตำรา บางเล่มสอนว่า เวลาที่น้ำหนักลดลงสักกิโลครึ่งกิโล สาวๆ ควรให้กำลังใจตัวเองด้วยของโปรดสักมื้อ แต่นั่นคือการเพิ่มความอ้วนที่เร็วมากๆ เพราะคนที่อดมานานพอได้เจอกับของโปรดก็จะพุ่งเข้าใส่เหมือนตายอดตายอยาก.. จากนั้นก็จะอิ่มจนออกกำลังกายไม่ไหว ทีนี้น้ำหนักที่หายไปก็จะกลับมาหาอย่างง่ายดาย เฮ้อ ..ออกกำลังกาย เสียดายเวลาที่ลำบากลำบนลดไปจัง

2. กินเฉพาะเวลาหิว
ก่อน จะกินให้ถามตัวเองก่อนว่าเราหิวจริงๆ หรือเล่า วิธีทดสอบก็เล่นไม่ยาก ให้คุณทำตารางระดับความหิวของตัวเองขึ้นมา ไล่ไปตั้งแต่ 1 ถึง 10 ถ้าคะแนนความหิวอยู่ตั้งแต่ 7 ขึ้นไปก็กินได้ แต่ถ้าความหิวอยู่ต่ำกว่า 7 ถือว่าเป็นแค่ความอยากเท่านั้น

3. สร้างความตื่นเต้นให้ตัวเอง
เวลา ที่เราอยู่เฉยๆ ระดับการเผาผลาญจะต่ำ ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อย แต่ถ้าเราตื่นเต้น ระดับการเผาผลาญก็จะสูงไปด้วย จึงต้องทำอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา เช่นถ้านั่งทำงานก็เกร็งหน้าท้องไปด้วย ลุกขึ้นเดินวนรอบห้องสักสองสามรอบ หรือถ้าไม่มีใครอยู่ก็อาจจะวิดพื้นสักสิบที สลับกับการนั่งทำงาน ถ้าทำแบบนี้พวกกับจำกัดอาหาร รับรองว่าแค่อาทิตย์เดียวรูปร่างจะเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

4. กินให้เพียงพอ
การ กินน้อยไม่ใช่วิธีลดความอ้วนที่ดีเลย เพราะร่างกายจะรู้สึกว่าได้รับพลังงานเพียงพอ ระบบทุกอย่างก็จะทำงานช้าลง รวมทั้งระบบเผาผลาญของเราด้วย แทนที่จะผอมน้ำหนักก็เลยกลับเพิ่ม แถมยังอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เซื่องซึม หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ เห็นไหม ไม่มีอะไรดีเลย วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้นสาวๆ ต้องกินให้อิ่ม เพียงแต่ต้องเลือกกินอาหารที่ไขมันต่ำและหนักท้องเท่านั้นเอง

5. อย่างดโปรตีน
วิธี ลดน้ำหนักของบางคนคือการอดโปรตีน ซึ่งก็จะได้ผลจริงๆ เพราะโปรตีนคือตัวสร้างกล้ามเนื้อให้ร่างกาย เมื่อไม่กินตัวก็จะเล็กลง แต่ในระยะยาวแล้ววิธีนี้จะทำให้เสียสุขภาพ และในที่สุดก็จะอ้วนขึ้นอีก เพราะร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ สาวๆ จึงต้องกินโปรตีนแต่ต้องเลือกกินแต่โปรตีนไขมันต่ำอย่างเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โยเกิร์ต ถั่ว เป็นต้น

6. มะขามคือคำตอบ
ผล ไม้ไทยราคาถูกอย่างมะขามนี่ล่ะคือกุญแจสู่ความเพรียวที่เราคาดไม่ถึง เพราะมะขามมีสารที่เรียว่า “กรดไฮดรอกซีไซตริก” หรือ HCA กรดนี้มีสรรพคุณในการสกัดความอยากอาหาร และทำให้ร่างกายดึงเอาไขมันออกมาใช้เป็นพลังงาน กินมะขามบ่อยๆ ไขมันไม่หมดก็ให้มันรู้ไป

7. มองตาสูตรที่ใช่
แต่ ละคนจะมีวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับตัวเองต่างกันไป เพราะกระบวนการทำงานของร่างกายคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสูตรที่เพื่อนคุณใช้แล้วเวิร์ค จึงอาจจะไม่ได้เรื่องสำหรับคุณ จึงต้องลองหลายๆ สูตรจนกว่าจะได้สูตรที่เกิดมาเพื่อคุณ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่งความผอมได้เลย

8. ปรุงรสปรุงรูปร่าง
รส ชาติเป็นตัวชูโรงที่ทำให้อาหารไขมันต่ำน่าเบื่อๆ ของเราอร่อยขึ้น สาวๆจะได้เกิดความฮึกเหิมที่จะกินมื้อต่อๆ ไปได้ นอกจากนี้ถ้าปรุงรสให้แซบเข้าไว้ ออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณบรรลุสู่เป้าหมายเร็วขึ้นอีกด้วย เพราะสารแคปไซซินตัวการสร้างความเผ็ดสามารถกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้ทำ งานดีขึ้น และสลายไขมันได้มากกว่าปกติ

9. เพิ่มผักเป็นดับเบิ้ล
ถ้า คุณกำลังกินผักอยู่แล้ว ต่อไปนี้ให้เพิ่มปริมาณผักให้มากขึ้นเป็นสองเท่า และควรจะกินผักให้หลากหลายชนิด แค่นี้คุณก็จะไม่เหลือเนื้อที่ในท้องไปกินขนมกรุบกรอบอย่างอื่น และระบบขับถ่ายยังจะดีอีกด้วย

ที่มา..n3k.in.th

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "นมเปรี้ยวกินแล้วผอม"






เป็น ความเชื่อที่ไม่ใช่เรื่องจริงเลยค่ะ โดยเฉพาะสาวๆ ที่เชื่อกันอย่างเป็นตุเป็นตะว่านมเปรี้ยวกินแล้วผอมเพราะอะไรทำให้คิดแบบ นั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นนมที่ไม่หวานมาก ไม่มีไขมัน กินแล้วอยู่ท้อง หรือเพราะมันไม่หวานไม่มีไขมันนี้ นี่แหละค่ะที่เป็นสาเหตุให้เราเข้าใจกันไปว่ากิน นมเปรี้ยวกินแล้วผอม แต่ขอบอกว่าไม่จริงเลยค่ะ ไม่ใช่เรื่องจริงและเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนะค่ะ ไม่ใช่ว่ากินนมเปรี้ยวไปเยอะๆ เดี๋ยวก็ผอม คุณพระ! มีโอกาสท้องเสียได้เลยนะค่ะนั้นหน่ะ วันนี้ค่ะวันนี้เรามีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ "นมเปรี้ยวกินแล้วผอม" จะมาบอกกัน แล้วเราก็ยังได้นำความจริงที่ถูกต้องขอการกินนมเปรี้ยวในปริมาณเยอะๆ มาฝากกันด้วยนะคะ ณ เวลานี้ใครทีติดทานนมเปรี้ยวแบบเยอะๆ เพราะหวังที่จะผอม และมีหุ่นดี หยุดค่ะ หยุดทาน แล้วเรามาทำความเข้าใจกับนมเปรี้ยวซะใหม่นะค่ะ ทานแต่พอดีไม่เป็นไร แต่ถ้าทานเยอะไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีนะคะ

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ "นมเปรี้ยวกินแล้วผอม"
เชื่อ ว่ามีคุณผู้หญิงหลายๆท่านที่เข้าใจว่าดื่มหรือรับประทานนมเปรี้ยว จะช่วยลดความอ้วนได้  เราจะมารู้จักนมเปรี้ยวกัน นมเปรี้ยวหรือโยเกิรต์ทีที่มีวางในท้องตลาด แบ่งออกได้เป็น 2ประเภทใหญ่ๆคือชนิดของเหลว สามารถดื่มได้ทันที กับชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลว โดยนมเปรี้ยวจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากการนำนมไปหมัก ออกกำลังกาย ด้วยจุลินทรีย์ที่ไม่ทำให้เกิดโรค อาจมีการเติมวัตถุอื่นที่จำเป็นต่อกรรมวิธีการผลิต และอาจมีการปรุงแต่งสี กลิ่น รส ด้วย สำหรับจุลินทรีย์ที่นิยมใช้กันเป็นแบคทีเรียกลุ่มแลคโตบาซิลลัส และสเตรปโตคอคลัสซึ่งแบคทีเรียนี่เปลี่ยนน้ำตาลแลคโตส ในนมให้เป็นกรดแลคติด ทำให้ที่มีปัญหาเกิดอาการท้องเสียจากการดื่มนมเนื่องจากร่างกาย ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ สามรถรับประทานนมเปรี้ยวแทนนม และได้รับคุณค่าทางอาหารของนมได้

สำหรับ ความเข้าใจที่ว่านมเปรี้ยวจะไม่ทำให้อ้วนนั้นจริงๆแล้ว พลังงานทั้งหมดที่ได้จากนมเปรี้ยว จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น ถ้านมเปรี้ยวที่ทำจากนมสดก็ย่อมให้พลังงานมากกว่านมเปรี้ยว ที่ทำมาจากนมพร่องมันเนย ซึ่งมีไขมันต่ำกว่า แต่หากมีการเติมน้ำตาลมากๆเพื่อให้มีรถหวาน นมเปรี้ยวนั้นก็อาจให้พลังงานมากกว่านมธรรมดาๆก็ได้ เวลาที่จะเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน ต้องดูละเอียดต่างๆบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะบอกส่วนประกอบสำคัญว่ามีอะไรบ้าง

นอก จากนี้ ที่ฉลากยังจะบอกชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ปริมาตรสุทธิ ข้อความที่แสดงว่ามีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร ในกรณีที่มีการใช้ที่สำคัญมีเครืองหมาย อย. แสดงเลขทะเบียนตำรับอาหารหรือเลขที่รับอนุญาตให้ใช้ฉลากอาหาร และวันเดือนปีที่หมดอายุ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน นอกจากดูรายละเอียดบนฉลากแล้วต้องตรวจดูภาชนะบรรจุ ว่าอยู่ในสภาพเรียนร้อยหรือไม่ มีการปิดผนึกสนิท ไม่รั่ว ออกกำลังกาย ซึมหรือฉีกขาด และการเก็บสินค้าต้องเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสม เช่น ถ้าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ต้องเก็บในตู้เย็นหรือตู้แช่ อุณหภูมิไม่เกิน10องศาเซลเซียส นมยูเอชทีสามารถเก็บในห้องธรรมดาได้ แต่ต้องไม่อยู่ใกล้ความร้อน หรือถูกแสงแดด และไม่วางทับซ้อนกันหลายชั้นเกินไป จนทำให้กล่องนมย่น

เมื่อ ซื้อนมเปรี้ยวมาแล้วต้องเก็บในที่ๆ เหมาะสมและก่อนที่จะรับประทานอย่าลืมดูลักษณะของนมเปรี้ยวว่าปกติดีหรือไม่ เช่น นมเปรี้ยวชนิดเหลวต้องไม่จับตัวเป็นก้อนที่ก้นขวด ถ้าเป็นชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลว ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แตกตัว และอย่าลืมตรวจดูฉลากโดยเฉพาะวันหมดอายุ

ที่มา..n3k.in.th

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เคล็ดลับทาปากให้ดูอ่อนกว่าวัย



สาว ๆ ทุกคนเวลาที่แต่งหน้า ก็ล้วนอยากให้ตัวเองดูดี และอ่อนกว่าวัยทั้งนั้น แต่น่าแปลกที่ถึงแม้จะต้องการอย่างนั้น หลาย ๆ ครั้งก็พลาดแต่งหน้าตัวเองให้ดูแก่เอาได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในส่วนของปาก สาว ๆ เชื่อไหมว่าการทาปากนั้นมีส่วนทำให้คุณดูแก่ขึ้นไปทั้งหน้าได้ง่าย ๆ เลยล่ะ

          1. จำไว้เสมอวว่า การทาปากให้ดูอ่อนกว่าวัยนั้น ไม่ว่าจะทาด้วยลิปสติกเนื้อแบบไหน ขอให้เน้นสีอ่อน สีนู้ดเท่านั้น เช่นสีชมพู หรือส้มอ่อนที่อ่อนจนแทบจะกลืนกับสีผิว สีแบบนี้แหละค่ะที่ทำให้คุณดูใสเป็นสาวแรกรุ่นได้อย่างเนียน ๆ

         2. ลงลิปกลอสทุกครั้งหลังจากทาปาก นอกจากจะใช้ลิปสติกสีนู้ดแล้ว หากสาว ๆ มีลิปกลอส (ที่ไม่มีสี) อยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางแล้วล่ะก็ อย่าลืมหยิบมันขึ้นมาทาทับเป็นสิ่งสุดท้ายทุกครั้งหลังจากใช้ลิปสติกสีนู้ด วาดปากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เครื่องสําอางเกาหลี

         3. รักษาความชุ่มชื้นของเรียวปากของคุณอยู่เสมอ ด้วยการทาลิปบาล์ม ไม่เฉพาะตอนที่ปากแห้งนะคะ แต่ทุกครั้งที่คุณเปลือยปากตอนนอน หรืออยู่บ้านนั่นแหละ มันจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของปาก หยุดปัญหาปากแห้ง ปากลอกได้เป็นอย่างดี

          4. ผลัดเซลล์ผิวริมฝีปากด้วยการสครับ ไม่ยากไม่เย็นเลยค่ะสาว ๆ วิธีการง่ายสุดง่ายแค่ใช้แปรงสีฟันขัดเบา ๆ ทุก ๆ 2-3 วัน แปรงสีฟันก็จะช่วยขัดเอาเซลล์ผิวที่หลุดลอกออกมาแล้วให้หายไปจากเรียวปากสวย ของคุณ

         5. สำหรับสาว ๆ ที่มีรูปปากบางมาก ให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากสีเดียวกับลิปสติกวาดรูปปากให้เกินออกมาจากเรียวปาก จริงตามต้องการ จากนั้นใช้ลิปสติกทาทับลงไปแล้วตามด้วยลิปกลอส จะช่วยทำให้ปากเรียวเล็กดูหนาและอวบอิ่มขึ้นได้ค่ะ ส่วนสาว ๆ ที่มีรูปปากหนาอยู่แล้ว ก็ทาไปตามรูปปากเลยค่ะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วลิปสติกสีนู้ดจะช่วยอำพรางปากของคุณให้ดูบางลงอยู่แล้ว ค่ะ เครื่องสําอางเกาหลี

          อย่างไรก็ดี การทาปากเป็นสีนู้ดอาจจะไม่ช่วยอะไรเลยนะคะ ถ้าหากสาว ๆ แต่งหน้าส่วนอื่นซะคมเข้ม แต่งตาซะมีมิติลึกโบ๋เข้าไปในเบ้าตา ดังนั้น การแต่งปากให้แมทช์กันกับการแต่งหน้า ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยค่ะ ซึ่งเชื่อว่าสาว ๆ ก็คงรู้อยู่แล้วล่ะ เอ้า.. คราวนี้ก็ไปแปลงโฉมแต่งหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยกันดีกว่า

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

เรียวปากสีชมพูนมเย็น



นอกจากลิปสติกสีแดงแรงฤทธิ์ ที่เพิ่มลุคความเฉี่ยวให้กับสาว ๆ จะมาแรงสุด ๆ ในช่วงนี้ แต่ก็มีอีกหนึ่งเทรนด์สีปากที่มาแรงไม่แพ้กัน etude house นั่นก็คือ การมีเรียวปากสีชมพูนมเย็น หรือชมพูโทนสีนู้ดหวาน ๆ ที่เพิ่มความเก๋ให้เรียวปากคุณสาว ๆ ได้ไม่เบา

          ลิปสติกสีชมพูนมเย็น  หรือชมพูโทนสีนู้ด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากแอ๊บหวาน แต่ก็แอบเซ็กซี่บ้างอะไรบ้าง เพราะใครที่ทาเรียวปากสีนี้ เป็นได้ทำให้หนุ่ม ๆ มองเหลียวหลังมองทุกทีไปสิท่า... ว่ากันว่า เรียวปากสีชมพูนี่แหละโดนใจหนุ่ม ๆ เขานักแล etude house เนื่องจากแสดงความเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน เป็นหญิงไทยใจงาม นุ่มนวล สุภาพ เรียบร้อย (ก็อย่างที่บอกแหละว่า... แอ๊บไว้ อิอิ)

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

เคล็ดลับดูแลหน้าผม พร้อมฝ่าฝน







ใบหน้า

           คุณอาจต้องพิจารณาในการเลือกชนิดของเมกอัพที่ใช้โดยคำนึงถึงความคงทน และเลือกชนิดที่จะไม่ไหลเปื้อนให้คุณหมดสวยเมื่อเจอฝนการแต่งหน้าจนหนา เตอะนั้นเสี่ยงต่อการที่จะเกิดคราบเลอะเปื้อนได้ง่าย เมกอัพเนื้อบางสีอ่อน ๆ จะปลอดภัยกว่า และควรเพิ่มเกราะป้องกันด้วยเมกอัพสูตรกันน้ำ เช่น รองพื้น หรือมาสคาร่าด้วย

เตรียมผิว

           การบำรุงผิว เครื่องสําอางเกาหลี  ลือกสกินแคร์ที่มีสารสกัดจากผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ที่มีวิตามินซีและช่วยให้ผิวของคุณสดชื่น

           หลังล้างหน้าสะอาดหมดจดแล้ว ลองใช้ก้อนน้ำแข็งห่อผ้าประคบบนผิวหน้า 5-10 นาที เพื่อลดการเกิดเหงื่อ แล้วเมกอัพก็จะติดทนยิ่งข้น อาจใช้โทนเนอร์เช็ดตามด้วยก็ได้สำหรับผู้มีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง เพื่อช่วยปิดรูขุมขน

           ควรเลือกใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่มีเบสหรือสารประกอบหลักเป็นน้ำในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้ผิวมันเยิ้มจนเกิดสิวจากผิวขาดน้ำและมีเหงื่อ

เมกอัพ

           สีอายแชโดว์ที่เหมาะจะแต่งในหน้าฝน คืออายแชโดว์เนื้อครีมสีน้ำตาล ส้ม เบจ ครีม ชมพู หรือสีพาสเทล ที่ทำให้ดวงตาดูสดใส กรีดตาด้วย อายไลเนอร์ซึ่งควรเป็นแบบลิขวัดและกันน้ำ และเลี่ยงดินสอเขียนตาสีดำ ๆ เป็นเขม่าที่จะทำให้คุณเป็นแพนด้าทันทีเมื่อต้องเจอฝน และปัดมาสคาร่าสูตรกันน้ำ

           ลิปสติกเนื้อแมตต์นุ่ม ๆ นั้นเหมาะกับหน้าฝน เพราะมันจะติดทนนาน และอาจแตะกลอสทับลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความแวววาวและดูสดชื่นขึ้น

           เลี่ยงการใช้รองพื้นก็จะดี เพื่อไม่ให้ผิวดูมันเยิ้ม และดูเป็นคราบ แต่ถ้าต้องใช้ ควรเลือกรองพื้นเนื้อซิลิโคนที่แนบสนิทกับผิว หรือแบบที่เป็นเนื้อมูสบางเบาหากมีสภาพผิวที่ค่อนข้างดี หลังลงครีมกันแดดให้ตามด้วยเบสหรือบีบครีมแล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่นก็พอ

           บลัชออนชนิดครีมสีพีช ชมพู หรือสีอมน้ำตาล จะช่วยเติมความสดใสให้พวงแก้มและติดทนนานขึ้น ลงบรอนเซอร์เล็กน้อยได้เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้โครงหน้า

           คิ้ว จัดแต่งให้เข้ารูปได้ด้วยการใช้เจลแต่งผม และแต้มสีจากพาเลตต์แต่งคิ้ว หากใช้ดินสอเขียนคิ้ววาดลงไปเลย เมื่อโดนฝนก็อาจไหลเลอะเทอะได้ เพราะสีจากดินสอเขียนคิ้วจะค่อนข้างเข้มและมีเนื้อสีแน่นแบบดินสอเขียนขอบตา นั่นเอง

ผม

           ช่วงหน้าฝนที่ฝนตกชุกแบบนี้ หลายคนอาจต้องทำใจไว้ได้เลยว่าสภาพผมจะเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นผมมัน ลีบแบน หรือจัดทรงยาก และนี่คือข้อแนะนำให้คุณเตรียมรับมือกับปัญหาผมได้ดียิ่งขึ้น

ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป

           เมื่อเปียกฝนคุณย่อมต้องสระผมบ่อย ๆ ซึ่งการนวดหนังศีรษะเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของรังแค แต่ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เพราะมันจะทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วหนักขึ้นไปอีก แค่สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะที่จะทำให้ผมคุณสะอาดและมีสุขภาพ และไม่ทำให้เส้นผมขาดน้ำมันจนแห้งเปราะเกินไปอีกด้วย

เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผมให้ดี

           คนที่มีสภาพผมมันหรือปกติ ควรระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีน้ำมันหรือความชุ่มชื้นสูงเพราะ จะทำให้ผมมันเยิ้มได้ เมื่ออยู่ท่ามกลางความชื้นผมจะดูลีบและเสียทรงได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์แต่งและบำรุงผมที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้ความชื้นของอากาศทำปฏิกิริยาจนทำให้เส้นผมคุณเหนียว

ระวังความชื้นให้ดี

           อากาศชื้น ๆ ของหน้าฝนอาจส่งผลให้เกิดความชื้นกับหนังศีรษะมากขึ้น จากนั้นก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่มีผมมันอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ข้างนอกหรืออยู่ภายในอาคาร ความชื้นก็เปลี่ยนสภาพผมคุณได้ โดยเฉพาะคนที่เส้นผมหยิกหรือหยักศกจะยิ่งดูดซับความชื้นจากอากาศไว้ได้มาก ซึ่งความชื้นจะทำให้เส้นผมลีบแบนได้ ทางแก้ก็คือ ปกป้องแกนผมจากความชื้นด้วยการใช้เจลแต่งผมลูบเพื่อเป็นเกราะป้องกันเส้นผม ไว้ชั้นหนึ่ง ตามด้วยสเปรย์ฉีดผมที่ไม่ทำให้ผมเหนียว รวมทั้งไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากเกิน 4 อย่างในแต่ละครั้ง คุณอาจสระผมด้วยแชมพู ใช้ครีมนวดจากนั้น แต่งผมด้วยเจล เครื่องสําอางเกาหลี  และฉีดสเปรย์ตบท้ายก็เพียงพอแล้ว

อย่าทดลองทรงใหม่ ๆ มากเกินไป

           อากาศชื้น ๆ แบบนี้คือช่วงเวลาที่คุณไม่ควรบังคับให้ผมอยู่ในสไตล์ที่ไม่คุ้นเคย เช่น คนผมตรงไม่ควรม้วนผมลอน หรือคนที่มีผมหยักศกธรรมชาติก็ไม่ควรใช้เครื่องหนีบผมตรง เพราะความชื้นอาจจะทำให้การจัดทรงของผมคุณเสียรูปไป ดังนั้น จึงควรทำผมตามลักษณะผมเดิมของคุณจะดีกว่า เช่น ผมหยักศกก็ใช้เจลลูบแต่งลอนผมให้เข้าทรงแทนที่จะหนีบผมให้ตรง ส่วนคนผมตรงก็อาจจะรวบหางม้าหรือถักเปียกแทน

ที่มา..guru.thaibizcenter.com


วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บอกลาเเขนห้อย ด้วยท่าออกกำลังกายคู่กับ Dumbbell



ลดมากเเขนห้อยหรือเปล่า หาท่าออกกำลังกระชับต้นเเขนกันเถอะ

ท่ากลุ่มนี้ทำได้ทั้งชายเเละหญิงค่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงไม่อยากกล้ามใหญ่ ออกกำลังกาย ใช้น้ำหนักไม่ต้องมากค่ะ เอาเเค่ฟิลตรงกล้ามเนื้อตึงๆ เเต่เน้นที่จำนวนครั้งเยอะๆ (15-20 ครั้งเป็น 1 เซ็ท) ถ้าต้องการสร้างกล้ามให้น้ำหนักเยอะ จำนวนครั้งน้อยลงได้ (12-15 ครั้ง เป็น 1 เซ็ท) ทำ 3 เซ็ท เคล็ดลับให้ได้ออกเเรงเกร็งมากขึ้นคือจะต้องไม่ขึ้นสุดเเละลงสุดพยายาม ประคองให้ถึงตำเเหน่งที่เกรงที่สุด เเละ ผ่อน เวลาที่ใช้น้ำหนักมาก ออกเเรงให้หายใจเป่าออกออกกำลังกาย เเล้วผ่อนเเรงให้หายใจเข้าไม่กลั้นหายใจ

ที่มา..lovefitt.com

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไม่ต้องกังวลว่าการออกกำลังกายหนักหรือเล่นเวทเยอะๆจะทำให้เรามีร่างกายกำยำมีกล้ามเป็นมัดๆ






สาวๆ ทั้งหลายไม่ต้องกังวลว่าการออกกำลังกายหนักหรือเล่นเวทเยอะๆจะทำให้เรามี ร่างกายกำยำมีกล้ามเป็นมัดๆ ความจริงเเล้วผู้หญิงมีฮอร์โมน ที่เรียกว่า เอสโตรเจน คอยควบคุมอยู่ทำให้ผู้หญิงมีส่วนโค้งเว้ามากกว่าผู้ชาย ไม่มีหนาวเคลา กล้ามเนื้อก็เช่นกัน ถ้าเราออกกำลังกายเยอะ เล่นเวทเยอะ ร่างกายเราก็จะสลายไขมันไปเมื่อไขมันชั้น บางลงทำให้เห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้นเท่านั้นเอง หุ่นจะออกมาเป็นเเบบเฟริมๆ อุปกรณ์ออกกำลังกาย  

เเต่ตามภาพที่เห็นผู้หญิงกล้ามโตๆเเบบนี้ ต้องใช้การฝึกที่หนักมาก ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก ทั้งเวท เเละอุปกรณ์ออกกำลังกาย   คาร์ดิโอ 6 วันต่อสัปดาห์ ทานอาหารไขมันต่ำมาก เเละต้องทาน โปรตีนผงเพื่อสร้างกล้ามค่ะ

ที่มา..lovefitt.com

วิธีแต่งหน้าป้องกันการไหลเยิ้ม



เลือก ใช้แบบครีม : แต่งเติมสีแก้มด้วยบลัชออนชนิดครีมที่มีเนื้อบางใส (หรือใช้ชนิดทิ้นท์แทนก็ได้) เพราะจะมีความคงตัวในเหงื่อและน้ำได้ดีกว่า แถมยังใช้เกลี่ยลงบนครีมกันแดดได้ดีกว่าด้วย
etude house  

  มาสคาร่ากันน้ำ : มาสคาร่าแบบนี้นอกจากช่วยให้มาสคาร่าไม่ไหลเยิ้มยามเจอน้ำหรือเหงื่อแล้ว ยังสามารถใช้แทนอายไลเนอร์ได้ด้วย โดยใช้พู่กันอันเล็ก ๆ จุ่มลงในมาสคาร่า แล้ววาดขอบตาตามปกติ

   คิ้วสวยได้รูป : วิธีที่ดีที่สุดในการป้องการผลิตภัณฑ์แต่งคิ้วไหลเยิ้ม คือใช้ผลิตภัณฑ์แต่งคิ้วให้น้อยที่สุด ซึ่งก็หมายความว่าคิ้วของคุณจะต้องดูสวยได้รูปตามธรรมชาติ ฉะนั้น อย่าลืมใช้แหนบถอนคิ้วรก ๆ ออก เพื่อให้คิ้วดูสวยเป็นระเบียบอยู่เสมอ etude house  

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

TRX คืออะไร การออกกำลังกายรูปเเบบใหม่ที่สร้างกล้ามเนื้อเเละกระชับสัดส่วน



TRX หรือ Total body Resistance eXercise

อุปกรณ์การฝึกการออกกำลังกายซึ่งค่อนข้างใหม่สำหรับบ้านเรา อุปกรณ์กระทัดรัดพกพาง่าย แต่คุณสมบัติน่าทึ่ง

“TRX” ชื่ออาจฟังดูไม่คุ้นหูนัก แต่รับรองใครได้ลองเล่นเป็นติดใจ จุดเด่นของการใช้เจ้าอุัปกรณ์ตัวนี้คือ “Core all the times” เรียกว่าเป็นการใช้และฝึกกล้ามเนื้อ core muscle (เเกนกลางลำตัว) ในและในทุกๆท่าการเคลื่อนไหว สามารถประยุกต์ฝึกได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Strength, Endurance , Balance, Stretching หรือ ประยุกต์ใช้ในการฝึกกีฬาได้หลากหลายประเภท เช่น กอลฟ์ เทนนิส บาสเก็ตบอล ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล โดยสามารถออกแบบโปรแกรมฝึกและจำลองการเคลื่อนไหว หรือ ใช้กล้ามเนื้อ และประยุกต์ใช้ TRX มาฝึกในโปรแกรมได้

TRX มีต้นกำเนิดจากพวก Navy seal  อุปกรณ์ออกกำลังกาย นาวิกโยธินซึ่งเอาสายร่มชูชีพมาดัดแปลงใช้เพื่อออกกำลังกาย เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดต่อมาเริ่มมาใช้ในวงการกีฬา ฟิตเนส หรือพวกฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายในผู้ป่วย เนื้อหาในตอนนี้ ผมได้ทำเป็นวิดิโอ เพื่อให้ข้อมุลเบื้องต้นในการเริ่มใช้งาน ติดตั้ง การปรับสายสั้น ยาว การปรับตำแหน่งการยืนเพื่อปรับความยากง่าย มีตัวอย่างท่าฝึกพื้นฐานบ้างท่า และในตอนต่อไปจะนำเสนอโปรแกรมการฝึกในรูปแบบต่างๆ หรือ โปรแกรมฝึกแบบผสมกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การออกกำลังกายสนุกมีรสชาติ และไม่น่าเบื่อ
TRX ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?

สิ่งแรกที่ต้องรู้จัก คือ ชื่อชิ้นส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์มีอะไรบ้าง

    Suspension Anchor (สายห้อย)
    Anchor Carabiner (ตะขอห้อย)
    Intermediate Anchor loop (ช่องใส่ตะขอ)
    Equalizer loop (ช่องปรับความสมดุล)
    Main Strap (สายที่ใช้ฝึก)
    Adjustment Tabs (ตัวปรับความสั้น-ยาว)
    Cam Buckles (เหล็กปลดล็อค-ล็อค)
    Handles (ที่จับ)
    Foot Cradles (ที่ใส่เท้า)
    รับน้ำหนักที่ปลอดภัยได้ถึง 160 กก.(350ปอนด์)NL.

ส่วนตัวผึ้งเคยเข้าโปรเเกรมฝึกนี้มามาเเล้ว สัปดาห์ละ 1-2 ชัวโมง ควบคู่กับการ weight และ Cardio เดิม TRX  อุปกรณ์ออกกำลังกาย ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่หนักหน่วงเอาเรื่องเลยทีเดียว เหงื่อแตกเหงื่อเเตนเหมือตกน้ำ หัวใจเต้นเเรงและเร็ว ใช้การเคลื่อนไหวน้อย เเต่เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ โดยการออกกำลังส่วนใหญ่จะเน้นในส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่และเเกนกลางลำตัว ไม่ใช้การนับจำนวน ครั้งเเต่จะใช้การจับเวลา ทุกท่าท่าละ 30วินาที ท่ามีตี้งเเต่ Basic ไปจนถึง Advance เเต่สำคัญคือต้องฝึกฝนเเละเข้าใจการใช้อุปกรณ์จะผู้มีประสบการณ์เสียก่อน เล่นสุ่ม 4 สุ่ม 5 อาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายๆ

ผล ของการเล่น ร่างกายกระชับขึ้น กล้ามเนื้อเเข็งเเรงขึ้น ดูหุ่นเฟริมขึ้น เเต่น้ำหนักไม่ลง เหมาะสำหรับหนุ่มๆที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อค่ะ ส่วนเรื่องว่่าฝึกที่ไหนอะไรยังไงตอนนี้ตามคลับต่างๆหลายๆที่ก็มีบริการ สอบถามกันดูนะคะ

ที่มา..lovefitt.com

Kettlebell Exercise หรือ Kettlebell swing training เเทรนการออกกำลังเเนวใหม่เพื่อหุ่นสวย






เค็ทเทิลเบล (Kettlebell) เป็นการฝึกที่ได้รับความนิยมอยู่ในประเทศรัสเซียเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว

คำ ศัพท์รัสเซีย สำหรับ เค็ทเทิลเบ็ล แปลว่า GIRYA ปรากฏขึ้นครั้งแรกในพจนานุกรมรัสเซีย ในปี ค.ศ.1704 โดยลักษณะของเค็ทเทิลเบ็ล (Kettlebell) ทำมาจากเหล็กที่มีส่วนผสมของคาร์บอนและซิลิคอนมีลักษณะคล้ายลูกกระสุนปืน ใหญ่ที่มีด้ามจับบริเวณด้านบนสุด และใช้หน่วยน้ำหนักรัสเซีย ที่เรียกว่า Pood และ1 pood เท่ากับ 16 กิโลกรัม และมีน้ำหนัก ตั้งแต่ 0.25-3 poods หรือ 4-48 กิโลกรัม การกำเนิดกีฬา เค็ทเทิลเบล (Kettlebell sport) โดยด็อกเทอร์ วราดิสราฟ คราเยพสกี้ผู้กำหนดศัพท์คำว่า “Heavy athletics” (tyazholaya atlitika) หรือชื่อของกีฬายกน้ำหนักของชาวรัสเซียในปัจจุบัน ในอดีตผู้ชายทุกคนที่มีความแข็งแรงและนักยกน้ำหนักถูกเรียกว่า girevik หรือ เค็ทเทิลเบลแมน (Kettlebell man) และได้รับการถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย

การ ฝึกเค็ทเทิลเบล สวิง (Kettlebell swing training) หมายถึง การออกกำลังกายโดยการเหวี่ยงน้ำหนักตั้งแต่ 0.25-3 poods หรือ 4-48 กิโลกรัม ผ่านระหว่างขาทั้งสองข้าง ให้ลอยขึ้นสู่ระดับหน้าอก การออกกำลังกายด้วยเค็ทเทิลเบล สวิง คือท่าพื้นฐานในการเริ่มออกกำลังกาย และเป็นพื้นฐานไปสู่ท่าอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีงานศึกษาอย่างเช่น โวโรปาเยฟ (Voropayep, 1983) ได้ศึกษาเค็ทเทิลเบลที่มีต่อนักศึกษาหมาวิทยาลัยสองกลุ่มโดยใช้แบบทดสอบร่าง กายของทหาร ดึงข้อ (pull-ups) กระโดดไกล (Standing broad jump) วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 100 เมตร (100-meter sprint) และ วิ่ง 1 กิโลเมตร (1 K run) ผลปรากฏว่ากลุ่มทดลองได้คะแนนดีกว่าในทุกๆ แบบทดสอบ นอกจากนี้ เบอร์คอฟ และคณะ (Burkov., et al 1985) ได้กล่าวว่าการฝึกเค็ทเทิลเบล คือหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการพัฒนาความแข็งแรงของมนุษย์ (Tsatsouline, 2006) อุปกรณ์ออกกำลังกาย

ที่มา..lovefitt.com

แต่งหน้าให้น่ามองด้วยไฮไลท์






เปลี่ยนผิวหมองคล้ำให้ดูสดใส

        ใบหน้าที่หมองคล้ำดูสดใสขึ้นได้ด้วยการใช้ไฮไลท์ เลือกใช้แบบที่มีประกายวิ้งเล็ก ๆ จะทำให้ใบหน้าดูสว่างสดใสมากขึ้น

ดวงตาดูโตน่ามอง

        ทำดวงตาให้ดูโตขึ้นได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ไฮไลท์ทาไปใต้แนวคิ้ว และที่ขอบตาด้านใน เท่านี้ดวงตาก็จะดูโตสดใสขึ้นแล้ว etude house  

เรียวปากอิ่มเต็มได้รูป

        ใช้ไฮไลท์ทาเบา ๆ ที่เหนือรอยหยักของริมฝีปากบน และใต้ส่วนที่กว้างที่สุดของริมฝีปากล่าง เท่านี้ริมฝีปากของคุณจะดูอวบอิ่มขึ้นมาทันตา etude house  

        วิธีการใช้ไฮไลท์ก็ง่าย ๆ เท่านี้เองค่ะ อยากให้ส่วนไหนดูเด่นขึ้น ก็ใช้ไฮไลท์ที่ส่วนนั้น ก่อนจะจากจึงขอฝากเตือนสาว ๆ ไว้สักนิดว่าอย่าเผลอใช้ไฮไลท์ในจุดที่ควรจะปกปิดเชียวนะคะ จุดนั้นให้เป็นหน้าที่ของคอลซีลเลอร์ดีกว่าค่ะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

H.I.I.T การฝึกที่เพิ่มศักยภาพให้การออกกำลังกายของคุณ








ใน บรรดาสิ่งที่อยากเริ่มต้นของใครหลายคน เรื่องที่รู้สึกว่ายากที่สุดคงจะเป็นการเริ่มต้นออกกำลังกายนี่ล่ะค่ะ ใครบ้างล่ะที่จะไม่อยากดูดี หุ่นสวย และแข็งแรง แต่จะให้มาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอกลับไม่ยอมทำกันเสียอีก เรามีวิธีการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งมาฝากกัน เขาว่ากัน ว่าสามารถช่วยลดไขมันได้ถึง 9 เท่าของการออกกำลังกายแบบปกติ! ชักสนใจแล้วล่ะสิ

การออกกำลังกายแบบ นี้เรียกว่า High Intensive Interval Training หรือเรียกย่อๆ ว่า H.I.I.T แปลว่าการฝึกแบบเข้มข้นสูงเป็นช่วงๆ นั่นเอง อย่าเพิ่งงงค่ะ…มาลองทำความเข้าใจกันดูก่อน

การ ออกกำลังกายแบบนี้เหมาะกับการออกแรงกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ของร่างกาย อย่างกล้าม เนื้อขา เพราะฉะนั้นรูปแบบการออกกำลังที่ดี คือ การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน วิธีการฝึกเริ่มจาก วอร์มอัพ 5 นาที แล้วออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยานอย่างเต็มที่ ออกแรงแบบสุดๆ เดินก็เดินเร็วสุดๆ วิ่งก็วิ่งสุดแรงเกิด ปั่นจักรยานก็ปั่นให้เร็วจี๋อย่างนี้เป็นต้น เป็นเวลา 8 นาที จากนั้น ผ่อนความเร็วลงให้ช้ามากๆ แต่อย่าหยุดเป็นเวลา 12 วินาที ออกกำลังกายแบบสุดๆ กับค่อยๆ ผ่อน อย่างนี้สลับกันจนครบเวลา 20 นาที

การ ฝึกแบบนี้ควรทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 วัน วันละไม่เกิน 20 นาที ต่อเนื่องกัน 8 สัปดาห์ พอถึงสัปดาห์ที่ 9 ให้พักทั้งสัปดาห์ โดยเปลี่ยนไปออกกำลังกายเบาๆ แบบอื่น จำไว้ว่าอย่าฝืนออกกำลังกายแบบนี้ติดต่อกันทุกวัน เพราะแทนที่จะลดไขมันจะกลายเป็นลดกล้ามเนื้อแทนเพราะทำให้กล้ามเนื้อล้ามาก เกินไป

การ จะฝึก H.I.I.T ให้ได้ผล ต้องทำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารด้วย โดยให้รับประทานอาหารก่อนออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมง ห้ามปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 6 มื้อย่อยใน แต่ละวัน รับประทานอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ไม่มากไม่น้อยเกินไป รับประทานน้ำตาลให้น้อยที่สุด และรับประทานอาหารที่มีคุณค่าอย่างผัก ผลไม้ เนื้อไม่ติดมัน ปลา ธัญพืช ข้าวกล้อง

เคล็ด ลับสำคัญ อย่าชั่งน้ำหนักทุกวันจนเกิดความกดดันตัวเอง ปล่อยไปแบบสบายๆ พอฝึก ไปสักช่วงหนึ่งค่อยชั่งน้ำหนักก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง จะทำให้การออกกำลังกายมีเป้าหมายและมีความสุขมากขึ้นค่ะ

ที่มา..lovefitt.com






คอนซีลเลอร์จำเป็นไหม






หากคุณมีข้อบกพร่องบนผิวจนทารองพื้นทับไว้อย่างเดียวไม่เพียงพอ คอนซีลเลอร์ก็จะเป็นทหารเอกที่ช่วยเหลือคุณ วิธีการเลือกคือ...

           ดูว่าผิวคุณมีปัญหาอะไร ระดับใด etude house ต้องการการปกปิดมากน้อยแค่ไหน เพราะคอนซีลเลอร์แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งแบบเนื้อครีม เนื้อลิควิด แต่เทคนิคสำคัญคือ ลงคอนซีลเลอร์อย่างเบามือเท่านั้น อย่ากดย้ำซ้ำบนผิวที่ลงคอนซีลเลอร์มากเกินไป เพราะมันจะทำให้ผิวของคุณดูเป็นด่างดวง etude house

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เคล็ดลับทาลิปสติกง่ายๆให้สีอยู่สวย






1. เลือกลิปสติกแบบมีประกายจากไข่มุก

         เริ่มต้นด้วยการเลือกลิปสติกที่มีคุณสมบัติติดทน หรือที่ระบุว่า "long wearing" แต่โดยส่วนใหญ่ลิปสติกประเภทนี้มักเป็นแบบเนื้อแมท ซึ่งจะทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งได้ง่าย ลองเลือกลิปสติกติดทนแบบที่ให้ลุคริมฝีปากเนียนนุ่มหลังทาแทน โดยลิปสติกประเภทนี้มักมีประกายจากไข่มุก อันจะทำให้ปากดูแวววาวได้โดยที่เนื้อลิปสติกไม่ต้องเป็นครีม ซึ่งทำให้สีลิปเลือนหายไปได้ในเวลาไม่นาน  เครื่องสําอางเกาหลี

2. ใช้ลิปสติกสีเข้ม

         ลิปสติกสีเข้ม ๆ มักอยู่ติดทนนานกว่าแบบที่มีสีอ่อนเสมอ เนื่องจากเม็ดสีหรือพิกเม้นต์ที่มีอยู่มากกว่านั่นเอง

3. เตรียมริมฝีปากให้พร้อม

         ลิปสติกจะติดได้ดีที่สุดบนพื้นผิวที่เรียบ เพราะฉะนั้นก่อนการทาลิปสติก ให้ใช้ทิชชู่เปียก หรือสำลีชุบน้ำเช็ดถูที่ริมฝีปากเบา ๆ เพื่อเป็นการขัดเอาผิวริมฝีปากที่แห้งลอกให้หลุดออกไป จากนั้นจึงทาลิปบาล์ม ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้ลิปได้ซึมเข้าสู่ผิว แล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับปากเบา ๆ เพื่อไม่ให้ริมฝีปากมันเยิ้มจนเกินไป

4. วาดขอบปาก

         การวาดขอบริมฝีปากด้านใน ช่วยให้รูปปากดูคมชัดขึ้น และช่วยทำให้สีลิปสติกดูติดทนมากขึ้นด้วย เลือกดินสอเขียนขอบปากที่พอดีกับสีลิปติกของคุณ หรือหากไม่มีสีที่พอดีกัน ให้เลือกแบบที่อ่อนกว่าเล็กน้อยค่ะ

5. ทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง

         การทาลิปสติกจากแท่งโดยตรงแทนที่จะใช้พู่กันทาลิปสติก จะทำให้เม็ดสีของลิปติดลงที่ริมฝีปากได้มากกว่า ทำให้ติดทนนานกว่านั่นเอง หลังจากทาครั้งแรกแล้ว ให้ซับริมฝีปากด้วยกระดาษทิชชู่หนึ่งครั้ง จากนั้นจึงทาซ้ำอีกครั้ง

6. จบด้วยการปัดแป้ง

         หลังจากทาลิปสติกเสร็จหมดทุกขั้นตอนด้านบนแล้ว ใช้แปรงขนฟู ๆ แตะแป้งฝุ่นที่คุณใช้แต่งหน้าเล็กน้อย ปิดปากแล้วทำหน้ายิ้ม ปัดแป้งที่ริมฝีปากเบา ๆ เท่านี้ก็จะทำให้ลิปที่คุณเพิ่งทาลงไปติดทนนานขึ้นแล้วล่ะ เครื่องสําอางเกาหลี

          รู้เคล็ดลับดี ๆ อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าสาว ๆ ก็ไม่ต้องกลัวลิปสติกสีสวย ๆ จะเลือนหายไปจากเรียวปากแล้วค่ะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

สวยเริ่ดแบบสาวฮอลลีวู้ด



  Face

          ปรับสภาพผิวด้วยโลชั่นเพื่อปรับสมดุลผิว หลังจากนั้นลงมอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด แล้วทาเบสเมคอัพ ซึ่งเราขอแนะนำให้เลือกชนิดที่ปรับความสมดุลให้ผิวปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ และยังช่วยลดความหมองคล้ำได้อีกด้วย ส่วนรองพื้นนั้นเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิวให้มากที่สุด หากใครที่มีปัญหาจุดด่างดำและใต้ตาคล้ำ ให้ใช้คอนซีลเลอร์ 2 เบอร์ เบอร์นึงใช้ปรับใต้ตาให้ดูไบรท์ขึ้น ส่วนอีกเบอร์ให้เลือกที่ใกล้เคียงกับสีผิวเพื่อปกปิดจุดด่างดำ ตามด้วยแป้งฝุ่น และแป้งผสมรองพื้น เครื่องสําอางเกาหลี

          Blow and Eyes

          สีคิ้วอาจเป็นเทาหรือดำ ที่สำคัญคิ้วต้องดูหนาหน่อย ถ้าอยากให้ดูเฉี่ยวเปรี้ยวขึ้น ก็ต้องเขียนคิ้วให้โก่งได้รูป ส่วนอายแชโดว์จะเป็นสีอ่อนๆ ซอฟต์ๆ เช่น สีทอง สีครีม หรือสีเบส แต่จะเน้นอายไลเนอร์กับมาสคาร่ามากกว่า

          Cheek

          การปัดแก้มสามารถสร้างลุคให้เปรี้ยวแบบมาริลีน หรือเป็นสาวหวานแบบสโนไวท์ 2012 ก็ได้ เพียงแค่ปัดเฉียงๆ ประมาณ 45 องศา ก็จะได้ลุคสาวเปรี้ยว แต่ถ้าอยากได้ลุคสาวหวานให้ปัดกระจายฟุ้งๆ ตามโหนกแก้มปัดให้หน้าดูกลม หน้าก็จะดูแบ๊วๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละคนด้วยเหมือนกัน หากหน้ายาวถ้าเราปัดเฉียง ก็จะทำให้หน้าเราดูยาวเกินไป ควรเลือกบลัชออนสีชมพูแล้วใช้เฉดดิ้งเข้าช่วยไลท์กรอบหน้าให้มีมิติมากขึ้น เครื่องสําอางเกาหลี

          Lips

          แน่นอนว่าลิปสติกสีสดๆ มาแรงในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นสาวหวานหรือสาวเปรี้ยว ต่างเลือกใช้บริเวณกันทั้งนั้นลิปไลเนอร์เป็นสิ่งสำคัญ วาดขอบปากด้วยลิบไลเนอร์ให้ได้รูปมากที่สุด แล้วบรรจงทาลิปสติกสีสดให้เป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดสักวัน

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

ขั้นตอนปัดมาสคาร่าที่ผู้หญิงควรทราบ







ขน ตาเข้ม ๆ งอน ๆ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ส่งให้ใบหน้าดูน่ามองน่าชมยิ่งนัก มันทำให้ดวงตาดูโต เป็นประกาย และดึงดูดให้อยากเข้าไปพบปะ สาว ๆ บางคนแม้ไม่ได้แต่งหน้าแต่ก็ขอให้ตาเป๊ะไว้ก่อน หรือจะแต่งหน้าโทนนู้ด แล้วเน้นตาให้ตาดูโดดเด่นออกมาด้วยการปัดมาสคาร่าให้คมสวย เท่านี้ก็สวยได้ง่าย ๆ แล้ว เพราะฉะนั้นขั้นตอนการปัดมาสคาร่าแบบพื้นฐานจึงน่าจะเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนควรทราบเอาไว้ค่ะ

1. ใช้ที่ดัดขนตาเสมอ

          การดัดขนตาก่อนที่จะปัดมาสคาร่านั้น จะช่วยยกขนตา และทำให้ดวงตาคุณดูโตขึ้นได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะกับสาวที่มีขนตาค่อนข้างน้อยและบาง ซึ่งสังเกตเห็นได้ยากหากไม่ดัดและปัดขนตาเสียก่อน เมื่อดัดขนตาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการปัดขนตาต่อไป เครื่องสําอางเกาหลี

2. เลือกใช้มาสคาร่าที่เหมาะสม

          มาสคาร่านั้นมีหลายประเภท และให้ผลหลังการปัดที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่าแบบเพิ่มความยาว แบบเพิ่มความงอนงาม แบบเพิ่มความหนา ทั้งนี้ลักษณะของแปรงที่แตกต่างกันก็ให้ผลที่แตกต่างกันด้วย จึงควรเลือกประเภทของมันให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้การเลือกใช้สีของมาสคาร่าให้เหมาะสมตามแต่ละโอกาส ก็จะช่วยให้เปลี่ยนบุคลิกของคุณให้สมกับกาลเทศะด้วยค่ะ
3. ปัดมาสคาร่าอย่างถูกต้อง

          การปัดมาสคาร่าที่ถูกต้อง ให้เริ่มที่โคนขนตา แล้วปัดในทิศทางขึ้นไปจนสุดปลายขนตา นอกจากนี้การขยับมือซิกแซ็กขณะปัด จะช่วยให้ขนตากระจายตัวไม่เกาะเป็นก้อนด้วย เมื่อรอบแรกแห้งแล้ว สามารถปัดซ้ำอีกครั้งหนึ่งได้ แต่ไม่ควรปัดมากเกินกว่า 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ขนตาหนักเกินไป และรู้สึกไม่สบายเปลือกตาค่ะ

4. ปัดขนตาล่างแต่พอดี
          การปัดขนตาล่างนั้น ไม่ควรหนักมือเท่ากับขนตาบน เพราะจะทำให้เลอะง่าย ทั้งยังรู้สึกหนักและเหนอะอีกด้วย หลังจุ่มแปรงปัดลงในน้ำยา และปัดขนตาบนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ปัดขนตาล่างต่อได้เลย โดยไม่ต้องจุ่มน้ำยาซ้ำอีกครั้ง เครื่องสําอางเกาหลี

          แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนการปัดขนตาแบบพื้นฐาน แต่รับรองว่าถ้าทำได้ครบถ้วนตามนี้ คุณผู้หญิงก็จะมีดวงตากลมโตน่ามองแน่นอนค่ะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com




ใช้เมคอัพแบบมีชิมเมอร์อย่างไรให้สวย







เลือก เครื่องสำอางที่มีชิมเมอร์แบบเนื้อบางเบา เพราะจะไม่จับตัวเป็นก้อนหรือเป็นปื้นเมื่อทาลงบนผิว อันจะทำให้ประกายชิมเมอร์ทั้งหลาย เกาะตัวกันเป็นก้อน ๆ ดูวิบวับแบบประหลาด ๆ อีกด้วย

          ประกายวิ้ง ๆ จากชิมเมอร์จะดูดีเมื่อได้รับการเบลนด์ให้เข้ากัน เลือกใช้แปรงแต่งหน้าแบบกลม ขนฟู ๆ เบลนด์แป้งไฮไลต์ที่มีประกายชิมเมอร์ให้ลงบนโหนกแก้ม ให้ชิมเมอร์กระจายตัวออกไปทั่ว ๆ ส่วนเคล็ดลับที่จะป้องกันไม่ให้แก้มที่ปัดไฮไลต์ที่มีชิมเมอร์นี้ดูขาวสว่าง กว่าส่วนอื่น คือการปัดไฮไลต์ทับเบา ๆ หลังจากปัดแก้มแล้วเท่านั้น เครื่องสําอางเกาหลี

          หากแต่งหน้าด้วยเมคอัพที่มีประกายจากชิมเมอร์แล้ว ไม่ควรจับคู่กับองค์ประกอบอย่างอื่นที่มีประกายเหมือนกัน เช่น หากได้ใช้อายแชโดว์กับบลัชที่มีชิมเมอร์ไปแล้ว ก็ไม่ควรจะทาเล็บด้วยสีประกายเมทัลลิก หรือใส่เสื้อผ้าที่เป็นประกายอีก เพราะจะดูเยอะเกินไปนั่นเอง เรียกว่าแต่งน้อย ๆ แต่เรียบสวยแบบ มินิมัลลิสต์ จะดีกว่า

          แต่งดวงตาให้โดดเด่นวิบวับจากประกายของชิมเมอร์ ด้วยการใช้ แปรงสำรับทาอายไลน์เนอร์ขนาดเล็ก แตะเนื้ออายแชโดว์แบบครีมที่จะเปลี่ยนเป็นแป้งเมื่อสัมผัสผิว ลากที่ขอบตาล่างด้านใน จากนั้นจึงลากเส้นเล็ก ๆ ที่บริเวณหางตาล่างให้ชิดแนวขนตาล่างมากที่สุด เท่านี้ดวงตาก็ดูดูสดใสเป็นประกายแล้ว เครื่องสําอางเกาหลี

          เครื่องสำอางแบบมีชิมเมอร์ไม่ได้มีไว้เพื่อเติมความสดใสให้วัยรุ่นสาว ๆ เท่านั้น แม้คุณจะเป็นสาวใหญ่ก็สามารถใช้เครื่องสำอางแบบที่มีชิมเมอร์ได้ เพียงแต่ให้หลีกเลี่ยงการใช้ในบริเวณที่ริ้วรอยเริ่มก่อตัว เพราะชิมเมอร์อาจไปจับตัวอยู่ตามร่องริ้วรอยนั้น ทำให้มองเห็นริ้วรอยชัดเจนขึ้นด้วย

           รู้เคล็ดลับการใช้เครื่องสำอางประกายชิมเมอร์แบบนี้แล้ว อย่าลืมลองนำไปใช้ดูบ้างนะคะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มารู้จักการออกกำลังกายร่วมกับ Stability ball หรือ Balancing Ball กัน



เป็นการออกกำลังกายที่ทำร่วมกับลูกบอลยางขนาดใหญ่ การออกกำลังกายกับ Stability ball เป็นการออกกำลังกายในกลุ่ม weight Training อุปกรณ์ออกกำลังกาย ช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเรงให้กับกล้ามเนื้อ ช่วยกระชับสัดส่วน เเละ สนุกสนาน การออกกำลังกายกับ Stability ball นี้ จะใช้ลูกบอลมาช่วยเพิ่มการเกร็งเเละออกเเรงกล้ามเนื้อ เพราะในขณะที่เราพยายามทรงตัวอยู่บนบอล เราจะเป็นจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อเพิ่มมากกว่าปรกติ

การออกกำลังกายกับ อุปกรณ์ออกกำลังกาย Stability ball มีหลากหลายท่า ตั้งเเต่ง่ายมากๆสำหรับผู้เริ่มต้นการฝึก Weight training จนถึง ขั้นสูง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความหนักได้อีกโดยการเล่นควบคู่กับ Dumbbell ก็ได้

ที่มา..lovefitt.com

อะไรที่ควรเตรียมไปเวลาไปฟิตเนส



การ ออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักเเละช่วยให้ร่างกายของ เราเเข็งเเรง การเลือกการออกกำลังกายสามารถเลือกการออกกำลังกายได้ทั้กลางเเจ้ง,ที่บ้าน หรือเเม้กระทั้ง การไปออกกำลังกายตามFitness ข้อดีสำหรับการไปออกกำลังกายใน Fitness คือ มีอุปกรณ์เเละกิจกรรมการออกกำลังกายรองรับหลายอย่างทั้งCardio เเละการ weight Training นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์คอยให้คำเเนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เเละยังทำให้เราจริงจังกับการออกกำลังกายได้มากขึ้นเพราะเราอยู่ในสภาพเเวด ล้อมที่เหมาะสม สำหรับวันนี้ผึ้งมี tips ในการเลือกอุปกรณ์ที่จะต้องนำติดตัวไป Fitness สำหรับคุณสาวๆมาฝากกันค่ะ

1.การเลือกชุดไปออกกำลังกาย

การเลือกชุดไปออกกำลังกายไม่ ได้สำคัญที่เเบบหรือความสวยงามเพียงอย่างเดียวเเต่ควรคำนึงถึงความสบายเเละ การระบายอากาศเป็นหลัก ไม่รัดรูป เเละไม่ดูดน้ำจนเกินไป ควรเลือกเนื้อผ้าที่เเห้งเร็ว เพื่อป้องกันการอับชื้น อาจจะเป็นเสื้อยืดคอกลม เนื้อผ้าผสมไรคร้า หรือเสื้อกล้ามที่มีสายค่อนข้างใหญ่จะดีกว่าเเบบสายเดี่ยวนะคะ ส่วนกางเเกงควรมีความยืดหยุ่นเเละระบายความร้อนเเละความอับชื้นได้ดี ส่วนตัวจะเเนะนำให้ซื้อเสื้อผ้าที่ออกเเบบมาเพื่อการออกกำลังกายค่ะ ราคาอาจจะสูงซักหน่อย เเต่คุณภาพเเละความทนทานถือว่าคุ้มค่ะ

2.บราเเละชั้นในสำหรับออกกำลังกาย

เรื่อง ชั้นในนั้นเเนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ซื้อที่ทำมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ เพราะจะช่วยให้กระชับเเละรองรับเเรงกระเเทกจากการออกกำลังกายได้ดีกว่าบรา ธรรมดา เเละยังมีเนื้อผ้าที่ระบายความร้อนเเละเเห้งเร็วกว่าอีกด้วย
วิธีการเลือกบราเเละชั้นในสำหรับออกกำลังกาย

ควรเลือกบราที่สายค่อนข้างใหญ่ เเละมีเเนวเส้นโครงสร้างที่รองรับรูปทรงของทรวงอก เเละควรมีเเถบป้องกันตะขอด้านหลังไม่ให้สัมผัสหรือ
ทำ ให้เกิดการระคายเคืองเวลาเคลื่อนไหว สำหรับกางเกงชั้นในควรเลือกที่เป็นเเบบบีกินี่หรือเเบบเต็มตัวเท่านั้น ไม่คารใส่ที่เป็น เเบบ V-string หรือ G-string เเละต้องไม่มีส่วนของลูกไม้ค่ะ ไม่ควรเลือกที่เป็นผ้าฝ้ายนะคะเพราะอุ้มน้ำมากเกินไปค่ะ ทำให้อับชื้นได้ค่ะ
วิธีทดสอบบรา

เวลา ลองบราให้ลองใส่บราที่ตะขอระดับที่สอง ลองใช้นิ้วสอดดูว่าเเน่นหรือหลวมไปหรือไม่ ควรเลือกให้กระชับหน่อยนะคะ ปรับสายให้พอดีไม่หย่อนหรือตึงเกินไป จากนั้น ลองกระโด่ดขึ้นลงเพื่อดูการเคลื่อนไหวของทรงอกไม่ให้มากจนเกินไปค่ะเพียง เท่านี้เราก็จะได้บราสำหรับใส่ออกกำลังที่เหมาะกับเราค่ะ หรือใครชอบที่จะใส่เป็็น workout top (เสื้อออกกำลังกายเเบบครึ่งตัว) ก็ดีเหมือนกัน สำหรับผึ้งชอบใส่เป็น workout top เเล้วสวมเสื้อทับอีกทีเพราะรู้สึกว่ากระชับกว่าเเละปวดไหล่น้อยกว่าบราเเละ ไม่มีตะขอให้กวนใจค่ะ

3.รองเท้าสำหรับออกกำลังกาย

การ เลือกรองเท้าควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับการไปออกกำลังกาย ไม่ควรเลือกรองเท้าเเนว Fashion sport หรือรองเท้ากึ่ง sport (Sneaker)เพราะรองเท้าในกลุ่มนี้ไม่ได้ช่วยรับเเรงกระเเทกเวลาที่เราออก กำลังกายเลย อาจเป็นสาเหตุให้ปวดหลังหรือมีปัญหาเรื่องข้อต่อ เเละเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย ทางที่ดีควรเลือกซื้อรองเท้าในกลุ่ม Cross training หรือ Running จะดีกว่าค่ะ

4.ถุงมือสำหรับเวทเทรนิ่ง

อัน นี้เป็นoptionนะคะ ถ้าหลักๆเราไม่ได้เวทเทรนนิ่งบ่อย เน้นที่การไปคาร์ดิโอก็ไม่ต้องซื้อค่ะ ถุงมือสำหรับเวทเทรนนิ่งมีประโยชน์ ช่วยให้มือไม่ด้านค่ะ เเละช่วยให้กระชับเวลาที่เราจับดัมเบลหรือบราเบลค่ะ ควรเลือกที่มีเเถบกันลื่นที่มีความหนาซักน่อยบริเวณฝ่ามือเเละ ร่องนิ้วโป้งค่ะ เลือกให้ขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กเเละไม่ใหญ่จนเกินไปค่ะ ใครที่เล่นน้ำหนักมากจะใช้อย่างที่มีเเถบล็อคข้อมือด้วยก็ดีค่ะ

5.ผ้าขนหนูผืนน้อย

ผ้า ก็มีความจำเป็นเพื่อซับเหงื่อเวลาที่เราออกกำลังกาย ควรเลือกผ้าที่ไม่หนาเเละหนักจนเกินไป เพื่อสะดวกในการพกพาค่ะ หรือใครจะใช้สายรัดข้อมืออย่างที่นักกีฬาใช้กันก็ได้ค่ะ

6.กระติกสำหรับใส่น้ำ

ควร มีกระติกน้ำหรือภาชนะสำหรับใส่น้ำดื่มพกติดตัวไว้ในขณะที่เราออกกำลังกายค่ะ เพราะเวลาที่เราออกกำลังกายควรจิบน้ำเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้เกิดสภาวะขาดน้ำใน ขณะเราออกกำลังกายเเละเสียเหงื่อมากๆค่ะ

7.หูฟังหรือเครื่องเล่น MP3

เพื่อเพิ่มสมาธิเเละการผ่อนคลายขณะที่เราออกกำลังกายการ ฟังเพลงที่เราชอบไปด้วยจะช่ายให้เราสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นเเละสนุก สนานมากขึ้นค่ะควรเลือกเพลงที่มีบีทพอเหมาะสลับเร็วเเละช้าไว้ใน Playlist ค่ะโดยเฉพาะคนที่ชอบวิ่งบนเครื่องวิ่งค่ะ นอกจากนี้เพลงยังสามารถเป็นตัวกำหนดเวลาในการวิ่งของเราได้อีกด้วย 1 เพลงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 นาที 10 เพลงก็ทำให้วิ่งได้ 30 นาทีโดยที่ไม่เบื่อเเล้วค่ะ

เมื่อ เราเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์เเล้วสิ่งที่เราจะต้องนำติดตัวไปทุกครั้งก็คือใจ ที่พร้อมเเละจริงจังกับการออกกำลังกาย ความอดทน เเละความมุ่งมั่นค่ะเพราะการออกกำลังกายที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้อง ทำอย่างจริงจังเเละสม่ำเสมอ ไม่ต้องอายหรือกังวลถ้าหากเรายังทำไม่ได้เหมือนคนอื่นๆจงทำให้เต็มที่เท่า ที่เเรง กำลังเเละประสบการณ์ของเราจะทำไหว ไม่ต้องฝืน ของเเบบนี้ต้องใช้การฝึกฝนค่ะ ไม่ได้วันนี้ก็พยายามฝึกต่อไปเรื่อยๆ การไปฟิตเนสหรือไปออกกำลังกาย ไม่ใช่การไปเพื่อเเข่งขัน หรือทำตามเเฟชั่น เเต่มันเป็นการสร้างลักษณะนิสัยเเละการเปลี่ยนเเปลงโปรเเกรมชีวิตเราให้มี สุขภาพที่ดีไปตลอดค่ะ

ที่มา..lovefitt.com

เพิ่มลูกเล่นริมฝีปากด้วยการทาลิปทูโทน



วันนี้ ก็เลยมีแนวการแต่งหน้าในสไตล์ที่น่าสนใจและที่สำคัญ สวยเก๋อย่าบอกใครมาให้สาว ๆ ได้ลองทำดูค่ะ งานนี้ไม่ยากอะไรเลย แค่เน้นที่การทาลิปสติกที่จะทำให้ริมฝีปากให้ดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่น่า เชื่อเท่านั้น เอ้า ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่าเป็นยังไง

         และแนวการทาลิปสติกที่เราขอแนะนำกันวันนี้ ก็คือการทาลิปสติกแบบทูโทน หรือลิปสติกสองสีนั่นเองค่ะ ซึ่งก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพียงแค่สาว ๆ ลองเลือกลิปสติกต่างสีขึ้นมา 2 แท่ง จากนั้นทาสีหนึ่งลงบนริมฝีปากบน ส่วนอีกสีหนึ่งให้ทาลงบนริมฝีปากล่าง อ๊ะ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกค่ะ etude house เพราะการทาลิปสติกในรูปแบบนี้นอกจากจะต้องเลือกสีสันให้เข้ากันและไม่ต่างสี กันมากแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องความติดทนด้วยค่ะ ซึ่งจะทำได้ยังไงนั้น วันนี้ขอเอาเคล็ดลับมาฝากกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ

         1. ทาลิปสติกสีแรกที่ริมฝีปากบน และอีกสีหนึ่งที่ริมฝีปากล่าง ระวังอย่าให้ริมฝีปากบนและล่างประกบกันค่ะ จากนั้นเม้มเข้ากับทิชชู

         2. ทาลิปสติกทับเข้าไปอีกครั้งทั้งริมฝีปากบนและล่าง จากนั้นเม้มกับทิชชูเบา ๆ อีกครั้ง คราวนี้ก็จะได้ลิปสติกที่มีสีชัดเจนมากกว่ารอบแรก

         3. ทาทับด้วยลิปกลอสให้มันวาว etude house หรือหากใครไม่ชอบความมันวาว ก็เตรียมพร้อมออกไปงานเลยค่ะ เพราะเพียงเท่านี้ก็ใช้ได้แล้วล่ะ

         เป็นยังไงคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม คราวนี้ สาว ๆ ก็ลองไปทำกันดูนะคะ รับรองว่ามันจะทำให้คุณดูโดดเด่นมาก ๆ ในงานอย่างแน่นอนค่ะ แต่หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะจับสีไหนมาชนสีไหนดีล่ะก็ วันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมภาพมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้านล่างนี้เลยจ้า

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

ขั้นตอนการปัดมาสคาร่า



ขน ตาเข้ม ๆ งอน ๆ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ส่งให้ใบหน้าดูน่ามองน่าชมยิ่งนัก มันทำให้ดวงตาดูโต เป็นประกาย และดึงดูดให้อยากเข้าไปพบปะ สาว ๆ บางคนแม้ไม่ได้แต่งหน้าแต่ก็ขอให้ตาเป๊ะไว้ก่อน หรือจะแต่งหน้าโทนนู้ด แล้วเน้นตาให้ตาดูโดดเด่นออกมาด้วยการปัดมาสคาร่าให้คมสวย เท่านี้ก็สวยได้ง่าย ๆ แล้ว เพราะฉะนั้นขั้นตอนการปัดมาสคาร่าแบบพื้นฐานจึงน่าจะเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนควรทราบเอาไว้ค่ะ วันนี้เราจึงได้นำขั้นตอนการแต่งตาแบบพื้นฐานสำหรับสาว ๆ มาฝากกันนั่นเอง

1. ใช้ที่ดัดขนตาเสมอ
          การดัดขนตาก่อนที่จะปัดมาสคาร่านั้น จะช่วยยกขนตา และทำให้ดวงตาคุณดูโตขึ้นได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะกับสาวที่มีขนตาค่อนข้างน้อยและบาง ซึ่งสังเกตเห็นได้ยากหากไม่ดัดและปัดขนตาเสียก่อน เมื่อดัดขนตาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการปัดขนตาต่อไป เครื่องสําอางเกาหลี

2. เลือกใช้มาสคาร่าที่เหมาะสม

          มาสคาร่านั้นมีหลายประเภท และให้ผลหลังการปัดที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่าแบบเพิ่มความยาว แบบเพิ่มความงอนงาม แบบเพิ่มความหนา ทั้งนี้ลักษณะของแปรงที่แตกต่างกันก็ให้ผลที่แตกต่างกันด้วย จึงควรเลือกประเภทของมันให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้การเลือกใช้สีของมาสคาร่าให้เหมาะสมตามแต่ละโอกาส ก็จะช่วยให้เปลี่ยนบุคลิกของคุณให้สมกับกาลเทศะด้วยค่ะ

3. ปัดมาสคาร่าอย่างถูกต้อง

          การปัดมาสคาร่าที่ถูกต้อง ให้เริ่มที่โคนขนตา แล้วปัดในทิศทางขึ้นไปจนสุดปลายขนตา นอกจากนี้การขยับมือซิกแซ็กขณะปัด จะช่วยให้ขนตากระจายตัวไม่เกาะเป็นก้อนด้วย เมื่อรอบแรกแห้งแล้ว สามารถปัดซ้ำอีกครั้งหนึ่งได้ แต่ไม่ควรปัดมากเกินกว่า 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ขนตาหนักเกินไป และรู้สึกไม่สบายเปลือกตาค่ะ

4. ปัดขนตาล่างแต่พอดี

          การปัดขนตาล่างนั้น ไม่ควรหนักมือเท่ากับขนตาบน เพราะจะทำให้เลอะง่าย ทั้งยังรู้สึกหนักและเหนอะอีกด้วย หลังจุ่มแปรงปัดลงในน้ำยา และปัดขนตาบนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ปัดขนตาล่างต่อได้เลย โดยไม่ต้องจุ่มน้ำยาซ้ำอีกครั้ง เครื่องสําอางเกาหลี

          แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนการปัดขนตาแบบพื้นฐาน แต่รับรองว่าถ้าทำได้ครบถ้วนตามนี้ คุณผู้หญิงก็จะมีดวงตากลมโตน่ามองแน่นอนค่ะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

แนะนำ! สูตรลับหน้าขาวใส






การ มีผิวหน้าขาวใส คือ ความฝันที่ฟินที่สุดสำหรับสาวๆ เลยก็ว่าได้ แต่เราจะทำอย่างไรหล่ะค่ะให้เรามีผิวหน้าความใสดั่งใจฝัน มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยใช่ไหมหล่ะค่ะ สาวๆ นั้นรู้กันดีว่าเคล็ดลับความสวยความงามนั้นมีเยอะ แต่ว่าถึงแม้มันจะมีให้เลือกเยอะ แต่มันก็ยุ่งยากมากๆ ซึ่งบางคนนั้นแทบจะทำแล้วไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ มันเครียด มันเครียด มันเครียด แต่ ณ วันนี้วันนี้เพื่อความสวยของสาวๆ แล้วเราก็จะมา แนะนำ! สูตรลับหน้าขาวใส มาฝากสาวๆ กันค่ะ สำหรับ สูตรลับหน้าขาวใส นี้นะค่ะก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับความงามง่ายๆ ที่เชื่อว่านี่คงเป็นเคล็ดลับที่สาวๆ กำลังตามหาอย่างแน่นอนค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้มั่นใจมากๆ ว่าสาวๆ ทั้งหลายนั้นคงอยากที่จะรู้แล้วว่า สูตรลับหน้าขาวใส ที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นอย่างไร แล้วจะง่ายขนาดไหน ถ้าอย่างนั้นพร้อมแล้วเราก็ไปพิสูจน์การมีวหน้าเนียนใสด้วย สูตรลับหน้าขาวใส กันเลยค่ะ

เผย สูตรลับหน้าขาวใส

วิธีทำ
ผสม น้ำมะขามเปียก นมสด และน้ำผึ้ง (ใส่นมสด และน้ำผึ้งแค่ครึ่งหนึ่งของน้ำมะขามเปียก) จากนั้นตั้งไฟอ่อนๆ คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น เป็นอันว่าเสร็จแล้วค่ะ etude house

วิธีเก็บรักษา
ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดแล้วแช่ในตู้เย็น สามารถ เก็บไว้ได้นานเท่าที่ต้องการเลยค่ะ

วิธีใช้
ล้าง หน้าด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แล้วทาครีมมะขามเปียกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที หรือนานเท่าใดก็ได้ ตามใจผู้ใช้ แล้วล้างออกตามปกติ

ข้อควรระวัง
หลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองได้

ข้อพึงกระทำ
ถ้า ต้องการให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรทาครีมมะขามเปียกในขณะที่ครีมเย็น หรือเพื่งจะเอาครีมออกจากตู้เย็น เพราะความเย็นจะทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าก็จะเรียบขึ้นค่ะ etude house

สูตรที่ 2 สูตรหน้าขาวใสด้วยธรรมชาติ
1. แป้งดินสอพอง
2. ขมิ้นหรือไพร
3. มะขามเปียกหรือมะนาว

ละลาย ดินสอพองไม่ต้องแฉะมากให้พอข้น แล้วผสมไพรหรือขมิ้น และมะนาวหรือมะขามเปียก ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ใบหน้าของคุณก็จะขาวใสขึ้นค่ะ

ที่มา...n3k.in.th

เทคนิคแต่งหน้าตามรูปหน้า




 หน้ารูปไข่

          สาว ที่มีใบหน้ารูปไข่ถือว่าเป็นผู้ที่มีรูปหน้าได้สัดส่วน สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่จำเป็นต้องแก้ไขรูปหน้าด้วยการใช้เครื่องสำอาง หรือว่าทำผมเพื่อดึงความสนใจออกไปจากจุดที่บกพร่อง เพียงแค่แต่งเติมเพื่อขับเน้นความงามตามธรรมชาติออกมาให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น เอง โดยเขียนคิ้วให้โก่งตามแนวธรรมชาติ(สาวคิ้วดกอย่าลืมกันขนคิ้วบางส่วนออกให้ เรียบร้อย) เขียนขอบปาก แล้วแต้มลิปสติกหรือทินต์ลงตรงกลางริมฝีปากล่าง เกลี่ยเม้มให้สีดูเป็นธรรมชาติ ปัดแก้มเป็นรูปตัว C เท่านี้ก็เน้นโครงหน้าสวย ๆ ให้น่ามองได้แล้ว

 หน้ารูปเพชร

          ใบ หน้ารูปเพชรคือคนที่มีช่วงหน้าผากและคางแคบ แต่มีช่วงแก้มที่กว้าง การแต่งหน้าสำหรับสาวหน้ารูปเพชรจึงต้องพรางให้ช่วงแก้มดูแคบลง โดยการใช้รองพื้นที่มีสีเข้มกว่าผิวจริงหนึ่งเฉดที่บริเวณกรอบนอกใบหน้าตรง ช่วงแก้ม โดยเกลี่ยตั้งแต่ช่วงหางตาทั้งสองข้างลงมา ส่วนที่บริเวณหน้าผากและคางให้ใช้ครีมรองพื้นที่มีสีอ่อนกว่าผิวจริง เพื่อขยายพื้นที่ทั้งสองบริเวณนี้สมดุลกับความกว้างของใบหน้าช่วงโหนกแก้ม นั่นเอง สำหรับคิ้ว อย่าเขียนให้หัวคิ้วทั้งสองอยู่ชิดกันมากเกินไปนัก เพราะจะยิ่งทำให้หน้าผากดูแคบขึ้น ส่วนริมฝีปากให้เลือกใช้ลิปสติกในโทนสีธรรมชาติมากว่าที่จะเลือกแบบที่มีสี สว่าง ๆ เครื่องสําอางเกาหลี

 หน้ารูปหัวใจ

          สำหรับ ผู้ที่มีคางแคบแต่หน้าผากกว้างทำให้ใบหน้าดูเป็นรูปหัวใจ การแต่งหน้าต้องเพิ่มความกว้างให้คาง ขณะเดียวกันก็ลดความกว้างของช่วงหน้าผากด้วย โดยการใช้ครีมรองพื้นสีอ่อนกว่าผิวจริงที่ช่วงคาง และใช้เฉดที่เข้มกว่าในช่วงหน้าผาก ส่วนคิ้วให้ร่างโค้งตามแนวธรรมชาติโดยไม่ต้องเน้นให้โก่งนัก สำหรับริมฝีปาก สาวหน้ารูปหัวใจสามารถเลือกใช้ลิปสติกสีใด ๆ ก็ได้ และหลอกตาให้คางและช่วงแก้มดูกว้างขึ้น ให้ใช้ไฮไลท์เตอร์ไล้ที่คางและข้างแก้ม ส่วนบลัชให้ปัดที่แนวโหนกแก้ม

 หน้ารูปกลม

          สาว หน้ากลมคือผู้ที่มีสัดส่วนความกว้างยาวของใบหน้าเท่ากันไปแทบทุกส่วน สิ่งที่สาวรูปหน้ากลมต้องทำก็คือเพิ่มความยาวให้กับใบหน้าและทำให้หน้าดู เรียวขึ้น โดยใช้ครีมรองพื้นที่เข้มกว่าสีผิวจริงหนึ่งเฉดที่บริเวณด้านข้างใบหน้า ตั้งแต่ข้างแก้มลงไปถึงกราม และปัดแก้มโดยปัดที่โหนกแก้มขึ้นไปหาขมับ จะทำให้หน้าดูเพรียวลงได้ จากนั้นก็สามารถแต่งตาและคิ้วได้อย่างที่ชอบ นอกจากนี้จะทำผมที่ด้านหน้าพอง ๆ ขึ้นไปสักนิด เพื่อเป็นการเพิ่มความยาวให้กับใบหน้าด้วยก็ได้

 หน้ารูปเหลี่ยม

          ใบ หน้ารูปเหลี่ยมคือมีช่วงความกว้างของหน้าผากและกรามกว้างพอ ๆ กันแถมยังเห็นเป็นเหลี่ยมดูไม่นุ่มนวล คอนเซ็ปต์ของการแต่งหน้าสำหรับสาวรูปหน้าเหลี่ยม คือการทำให้หน้าดูซอฟท์ลง และพรางเหลี่ยมมุมของใบหน้า โดยการใช้ครีมรองพื้นเฉดสีเข้มที่ช่วงขมับ กราม และด้านข้างของใบหน้า ส่วนแก้มให้ปัดโดยไล้ที่ช่วงสันกรามด้วย ทางด้านคิ้ววาดให้เพิ่มความโค้งเล็กน้อยจะทำให้องค์ประกอบของใบหน้าดูนุ่ม นวลขึ้น

 รูปหน้ายาว

          สาว รูปหน้ายาวคือมีสัดส่วนของความยาวใบหน้ามากกว่าความกว้าง ทั้งยังมีช่วงแก้มที่ค่อนข้างแคบ เพื่อพรางความยาวเกินไปของใบหน้า ให้ใช้ครีมรองพื้นเฉดสีอ่อนกว่าผิวจริงที่บริเวณด้านข้าง และใช้เฉดที่เข้มกว่าที่ช่วงหน้าผากกับคาง นอกจากนี้สาวรูปหน้ายาวสามารถเขียนคิ้วให้เข้มได้ เพื่อช่วยหลอกตาให้ความยาวของใบหน้าดูจมลงไปกับความเข้มของคิ้ว และแต่งตาให้ดูโตขึ้นโดยลากอายไลน์เนอร์ให้หนาขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางดวงตาลงไป จรดที่หางตา ปัดแก้มโดยไม่ปัดให้ขึ้นไปสูงกว่าช่วงหางตา และไม่เลยลงไปมากกว่าระดับปลายจมูก ก็จะช่วยพรางให้ใบหน้าเกิดความสมดุลได้

 หน้ารูปลูกแพร์

          สาว ใบหน้ารูปลูกแพร์คือคนที่มีช่วงหน้าผากแคบ เมื่อเทียบกับใบหน้าส่วนล่างอย่างแก้มและคางที่ผายออกกว้างกว่า สำหรับสาวรูปหน้าเช่นนี้ให้ใช้ครีมรองพื้นเฉดที่เข้มกว่าผิวจริงกับส่วนด้าน ข้างของแนวสันกราม วาดคิ้วให้ปลายโค้งและเรียวบาง ปัดแก้มโดยให้เบลนไปกลมกลืนไปกับกราม เพื่อให้ช่วงใบหน้าด้านล่างดูเรียวขึ้นรับกับส่วนหน้าผากนั่นเอง เครื่องสําอางเกาหลี

          ไม่ ว่าสาว ๆ จะมีรูปหน้าแบบไหน ก็สามารถแต่งหน้าให้ดูสวยกันได้หมดทุกคน เพียงแค่รู้จักพรางจุดบกพร่องและเสริมจุดเด่นให้ดูดีขึ้น เท่านี้หน้าตาก็ดูลงตัวแบบเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแล้วล่ะค่ะ

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

Pilates (พิลาทิส) ศาสตร์แห่งการการออกกำลังกายเพื่อชีวิต







ช่วง หลังมานี้มีเทรนการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในหมู่ Hollywood  เซเลปเบอร์ตี้ หรือเเม้เเต่เหล่าบรรดาดาราไทยก็เล่นกันอย่างเเพร่หลาย กับการออกกำลังกายที่เรียกว่า  Pilates (พิลาทิส) เป็นกสรออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างภายในร่างกาย
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีนั้น มีหลายวิธีด้วยกัน แต่วันนี้จะมานำเสนอรูปแบบของการออกกำลังกายแบบใหม่ที่น่าสนใจมาก ซึ่งการ ออกกำลังกายชนิดนี้เรียกว่า “Pilates” โดยเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทศวรรษที่ 80 โดยชาวเยอรมันเป็นผู้คิดค้น

และวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า Pilates คืออะไร?

Pilates (อ่านว่าพี-ลาห์-ตีส) คือรูปแบบการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างภายใน ร่างกาย รวมทั้งท่วงท่า และเป็นการออกกำลังกายเพื่อสร้างความฟิตด้วย ลองคิดถึงการเหยียดแขนออกไป ข้างตัวให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือนั่งลงด้วยการกางขาออกมาข้างหน้าและยกขึ้นเหนือพื้น Pilates เป็นรูปแบบของออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อของคุณสมบูรณ์แข็งแรงและ ป้องกันอาการบาดเจ็บด้วย

ชื่อ Pilates มาจากไหน?

Pilates เป็นการบริหารร่างกายที่เกิดจากการคิดค้นของโจเซฟ พีลาห์ตีส ชาวเยอรมัน โดยเขาเกิดในปี 1880 สมัยเป็นเด็กพีลาห์ตีสเป็นเด็กที่ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยบ่อยครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหัดเล่นยิมนาสติกเพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น หลังจากนั้นพีลาห์ตีสก็กลายเป็นผู้คลั่งไคล้ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไป ทันที โดยเขาเคยเล่นทั้งโยคะกับ Tai Chi ก่อนจะคิดค้นการออกกำลังกายของตัวเองขึ้นมาในช่วงต้นศตวรรษ 1990 โดยผสมผสานรูปแบบการออกกำลังที่หลากหลายที่เคยเรียนมาในชีวิตและเทคนิคของ ตัวเอง เพื่อช่วยให้ผู้เล่นปราศจากอาการบาดเจ็บให้ได้ ซึ่งรูปแบบการออกกำลังกายของเขาก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ตั้งแต่นักเต้นบัลเลต์ จนถึงนักรักบี้
“ผมต้องเป็นฝ่ายถูก ไม่มีวันใช้แอสไพริน ไม่มีวันเจ็บป่วยในชีวิตของผม ทั่วทั้งประเทศ ทั่วทั้งโลกน่าจะออกกำลังกายในแบบของผม และพวกเขาจะมีความสุข” โจเซฟ พีลาห์ตีส กล่าวไว้เมื่อปี 1965 ขณะที่มีอายุ 86 ปี

คุณจะเล่น Pilates อย่างไร?

Pilates นิยมเล่นกันบนเสื่อ และส่วนใหญ่จะสอนกันในชั้นเรียน แต่ผู้เชี่ยวชาญพิเศษบางคนมีเครื่องมือของตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างแรกเลยการเล่น Pilates คือการเรียนรู้ความสำคัญของการเคลื่อนไหวด้วยลมหายใจ ขณะที่คุณค่อยๆพัฒนาขึ้น การออกกำลังกายก็จะประสานกันเพื่อสร้างสรรค์การเคลื่อนไหวของร่างกายให้ไหล เวียนอย่างต่อเนื่อง
Pilates มีการเล่นที่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งผู้เรียนสามารถนำมาประยุกต์เพื่อปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองที่สุดได้ และเสริมสร้างความมั่นใจด้วยการเรียนกับผู้สอนที่มีประสบการณ์ และอย่ากลัวที่จะถามพวกเขาว่าทำอย่างไรคุณถึงจะทำมันได้อย่างถูกต้อง

หลักของ Pilates

  • ผ่อนคลาย
  • ทำร่างกายให้ตรง
  • ควบคุม
  • กระชับและประณีต
  • ทำเป็นกิจวัตร
  • การหายใจ
  • หาจุดศูนย์กลาง
  • เคลื่อนไหวอย่างไหลลื่น
หากใครก็ตามที่สนใจการออกกำลังกายแบบ Pilates แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้นำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมและไม่ ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของคุณ ซึ่งนี่อาจจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ดูแลตัวเองและรักสุขภาพเช่นคุณ

ที่มา..lovefitt.com

เทคนิคการมีขาเรียว....ฉบับสาวญี่ปุ่น






ขา เรียวสวยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการ แต่ค่ะแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะค่ะที่เราจะมีขาเรียวสวยอย่างที่ต้องการ และถึงมีวิธีสาวๆ ส่วนใหญ่บางคนก็ขี้เกียจทำอะแบบว่าแต่ละเคล็ดลับวิธีนั้นก็ยุ่งยาก ลำบากอะสุดๆ อยากสวยนะจริงๆ แต่ว่ามันเยอะอะค่ะ ทำยังงัยดี นี้เป็นแบบนี้ก็แย่หน่ะสิค่ะสาวๆ อะๆ แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะเพราะว่าวันนี้ทาง N3K นั้นมี เทคนิคการมีขาเรียว....ฉบับสาวญี่ปุ่น มาฝากกันค่ะ อะๆ ถูกใจหล่ะสิท่านี้เป๊นเทคนิคการมีขาเรียว....ฉบับสาวญี่ปุ่นเลยน๊าแล้วสาวๆ คนไหนจะไม่ชอบหล่ะจริงไหมหล่ะค่ะ อะงั้นเอาเป็นว่าตอนนี้นะค่ะเราไปดู เทคนิคการมีขาเรียว....ฉบับสาวญี่ปุ่น กันเลยดีกว่านะค่ะว่าจะเริ่ดแค่ไหน สาวๆ ทั้งหลายพร้อมกันหรือยังค่ะ ถ้าเกิดว่าสาวๆ พร้อมแล้วไปปฏิบัตตาม เทคนิคการมีขาเรียว....ฉบับสาวญี่ปุ่น กันเลยจร้า

แนะนำ เทคนิคการมีขาเรียว

1. ถนอมขาด้วยท่านั่ง
ไม่ นั่งไขว่ห้าง คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นประจำมักจะมีเส้นเลือดขอด เพราะการนั่งแบบนี้ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนไม่สะดวก ยิ่งถ้านั่งตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น กระดูกขาอาจจะโก่ง ต่อให้ขาเรียวแค่ไหนก็หมดสวยอยู่ดี เครื่องออกกำลังกาย

อย่า ยืนขาข้างเดียว น้ำหนักตัวคนเราไม่ใช่แค่สองสามกิโลเป็นภาระหนักมากสำหรับขา ที่จะต้องยืนแบกมันไว้ สิ่งที่ตามมาก็คือเส้นเลือดขอด ขาบวม และเส้นประสาทปลายเท้าที่อาจจะอักเสบ ถ้ายังไงควรจะรักขาอย่างยุติธรรม แบ่งงานให้เท่าทั้งสองข้าง เพื่อถนอมความสวยไว้ให้เรียวน่องของคุณไง

ยืดเส้นที่ขาทุกวัน เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและสลายไขมันที่เกาะใต้ผิวหนัง จะได้ป้องกันเซลลูไลท์และอาการขาหมูไปในตัว

Tip : วิธียืดเส้นแบบง่ายๆ ให้นั่งกับพื้น ยืดหลังตรง กางขาทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก้มตัวลง เหยียดแขนขวาไปแตะปลายเท้าขวา ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วยืดตัวขึ้น จากนั้นหันไปแตะปลายเท้าซ้ายอีก10 วินาที ทำสลับไปมาหลายๆ ครั้ง

2. นวดต่อมน้ำเหลือง
ถ้า ขาสวยอยู่แล้ว การนวดต่อมน้ำเหลืองจะช่วยป้องกันไม่ให้ขามีอาการบวมน้ำจนอวบเป็นหัวไชเท้า ขั้นตอนการนวดไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่นอนแช่น้ำอุ่นแล้วนวดเบาๆ ไล่จากข้อเท้าขึ้นมาหาต้นขา เพื่อให้ระบบน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี หลังจากขึ้นจากอ่างน้ำก็นวดซ้ำอีกรอบ วันรุ่งขึ้นขาอวบๆ จะเล็กลงอย่างน่าตกใจ คนที่มีไขมันสะสมที่ขามาก ถ้าใช้วิธีนี้ก็จะช่วยสลายไขมันอย่างได้ผลด้วย

Tip : ถ้าที่บ้านไม่มีอ่างขนาดใหญ่ให้ลงไปนอนแช่ จะใช้วิธีผสมน้ำอุ่นในกาละมังใบใหญ่ๆ แล้วนั่งตัวตรง แช่เท้าลงไปพร้อมกับนวดสักครั้งชั่วโมงแทนก็ได้ เครื่องออกกำลังกาย

3. เดินเล่นเพื่อขาสวย
คน ที่ยืนนานๆ หรือนั่งอยู่กับที่นานๆ มักจะมีเส้นเลือดขอด การเดินนี่ล่ะจะช่วยเรียกขาเรียบเนียนกลับมาหาคุณอีกครั้ง ยิ่งเดินนานเท่าไรไขมันสะสมก็จะยิ่งหมดไป ทำให้น่องกระชับ แต่ถ้าอยากสนุกมากกว่านั้น อาจจะเปลี่ยนจากเดินมาเต้นรำแทนก็ไม่เลว จะได้ทั้งขาสวยและความลั้นลาในเวลาเดียวกัน

ที่มา..n3k.in.th

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

6 เคล็ดลับ "การทาครีมบำรุงผิว" ให้ถูกวิธี






ผิว ของเราเป็นสิ่งที่ยากจะดูแลอย่างเข้าถึงและจะว่าไปนั้นการดูแลผิวในแบบต่างๆ ก็มีมากมายให้เลือก แต่รู้หรือไม่ค่ะว่ามีอีกหนึ่งวิธีใกล้ตัวมากๆ และเป็นวิธีที่สาวๆ มองข้ามไปแล้วด้วย มองหาไกลเกิน ทั้งขัดผิว นวดตัว เข้าสปา เปลืองค่ะบอกเลย สิ่งที่วันนี้เราอยากจะบอกนั้นคือ การทาครีมบำรุงผิว นั้นเองค่ะ งง หล่ะสิค่ะว่าการทาครีมบำรุงผิวนั้นจะละเลยได้ยังงัย เป็นสิ่งที่ไม่เคยมองข้ามเลยน๊าจริงๆ ก็ที่จะบอกคือว่า การทาครีมบำรุงผิวให้ถูกวิธีไงหล่ะค่ะ ฮั่นแน่! อยากรู้หล่ะสิว่า การทาครีมบำรุงผิวให้ถูกวิธีนั้นต้องทาแบบไหน งั้นไม่ต้องสงสัยนานหรอกนะค่ะ เพราะว่าวันนี้เรามี 6 เคล็ดลับ "การทาครีมบำรุงผิว" ให้ถูกวิธี มาฝากกันค่ะ เชื่อว่าถ้าสาวๆ คนไหนที่ลองทำตาม 6 เคล็ดลับ "การทาครีมบำรุงผิว" ให้ถูกวิธี นี้รับรองว่าจะช่วยทำให้ผิวของคุณดูสวยเนียนใสอย่างที่ใจคุณต้องการเลยค่ะ บ่องตง อิอิ

การทาครีมบำรุงผิว ให้ถูกวิธี

1. ทำความสะอาดผิวหน้า
แล้วใช้ผ้าขนนุ่มๆ ซับหน้า อย่าเช็ดไปมาเพราะจะทำให้เกิดรอยเเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ครีมหน้าใส

2. ใช้ปริมาณครีมให้พอเหมาะ
เพราะ ถ้างกใช้น้อยเกินไปก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพ แต่ถ้ามากเกินไปก็จะทำให้ผิวหน้ามันแถมยังเปลืองโดยใช่เหตุ ปริมาณที่พอเหมาะคือประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ หรือ 1 ลูกเชอร์รี่

3. แต้มครีมตามจุด 5 จุดบนใบหน้า
คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้าง และคาง

4. ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง เกลี่ยบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน
เช่น โหนกแก้ม โดยเริ่มจากส่วนกลางไปยังส่วนข้างๆ ตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก อย่าลืมเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้หน่อยเพราะควรใช้ eye cream สำหรับรอบดวงตา

5. ระหว่างทาครีม การลงน้ำหนักนิ้ว ขอให้เบาที่สุด
เพราะผิวหน้านั้นแสนบอบบาง หากลงน้ำหนักแรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดรอยย่นก่อนวัยอันควรได้ ครีมหน้าใส

6. สำหรับรอบดวงตาควรใช้ปริมาณเนื้ออายครีมประมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว
แล้ว ใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทา เพราะเป็นนิ้วที่ลงน้ำหนักเบาที่สุด โดยทาครีมไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตา อาจเริ่มที่หัวตาหรือหางตาก่อนก็ได้ แล้ววนครีมรอบๆ ดวงตา จะวนเข้าหรือวนออกก็ได้ตามถนัด แต่ต้องวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง

ที่มา...n3k.in.th

ปกปิดรอยคล้ำ และรอยสิวให้เนียนเรียบ







รอย สิวกวนใจที่ไม่ยอมหายไปจากใบหน้าเสียที ทำอย่างไรจึงจะปกปิดให้เนียนเรียบ และไม่ดูโบ๊ะได้ วันนี้ WP มีคำตอบค่ะ เริ่มจากการเลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว อาจทดลองทาที่บริเวณท้องแขนก่อน เพื่อทดสอบว่าคุณแพ้รองพื้นนั้นหรือไม่ เมื่อได้รองพื้นแล้วให้บีบลงที่หลังมือ ใช้นิ้วถูวนรองพื้นสักพักเพื่อเป็นการวอร์มให้มีอุณหภูมิเดียวกับผิว ซึ่งจะทำให้รองพื้นซึมเป็นเนื้อเดียวกันกับผิวง่ายยิ่งขึ้น เครื่องสําอางเกาหลี

          จากนั้นใช้แปรงค่อย ๆ ทารองพื้นลงบนใบหน้า เริ่มจากด้านในออกด้านนอก เกลี่ยไปเรื่อย ๆ จนเนียนเท่ากันทั้งใบหน้า สำหรับคนที่มีผิวแห้งให้ใช้ฟองน้ำจุมน้ำพอหมาดแล้วบีบน้ำออก นำมากดเบา ๆ ทั่วใบหน้าก็จะแลดูชุ่มชื่นขึ้น ต่อด้วยการเลือกคอนซิลเลอร์ที่มีสีใกล้เคียงกับรองพื้นที่ใช้มากที่สุด วอร์มเนื้อคอลซิลเลอร์เช่นเดียวที่ทำกับรองพื้น แล้วจึงใช้แปรงแต้มลงบริเวณที่มีรอยสิว กดเบา ๆ แล้วใช้นิ้วเกลี่ยรอบ ๆ จนกลืนเข้ากับผิว อย่าลืมทาคอลซีลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาและร่องข้างปีกจมูกเพื่อปกปิดรอยคล้ำและ รอยแดง เครื่องสําอางเกาหลี

          สุดท้ายลงแป้งแบบไม่มีสีบาง ๆ ทั่วใบหน้า เพื่อไม่ให้สีของรองพื้นเพี้ยนไปจากเดิม เท่านี้รอยคล้ำและรอยสิวบนใบหน้าก็จะเนียนหาย ไม่สามารถออกมาทำลายความมั่นใจของคุณได้อีกต่อไป

ที่มา..guru.thaibizcenter.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

Samsung เผยโฉม Galaxy S4 เวอร์ชั่นสีทอง



เพียง สองสัปดาห์หลังจากที่ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 5S ที่มีสีเทาดำ (Space Gray), สีทอง (Gold) และสีเงิน (Silver) โดยสีทองเป็นสีที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคตั้งแต่ช่วงแรกที่ เริ่มวางจำหน่าย ล่าสุดทางฝั่ง Samsung เองก็กระโดดเข้าร่วมวงด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ซัมซุง Galaxy S4 เวอร์ชั่นสีทอง

ซัมซุง Galaxy S4 เวอร์ชั่นสีทอง ถูกเผยโฉมผ่านทวิตเตอร์ของซัมซุงที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีให้เลือกสองแบบ คือสีทองน้ำตาล (Gold Brown) และสีทองชมพู (Gold Pink) แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าทั้งสองรุ่นจะมีวางขายที่ประเทศอื่นบ้างหรือไม่

ที่มา...siamphone.com

เผยผิวหน้ากระจ่างใส


แนะนำเคล็ดลับการ "เผยผิวหน้ากระจ่างใส"
ถ้า เราพูดถึงการมีผิวหน้าที่กระจ่างใส แน่นอนว่าสาวๆ จำนวนไม่น้อยค่ะที่จะอยากได้เคล็ดลับดีๆ เพื่อที่จะมาดูแลผิวหน้าของตัวเอง แต่ค่ะ...แต่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเคล็ดลับการมีผิวหน้าที่สวยใสนั้นมีเยอะ เยอะเวอร์ แล้วแต่ละวิธีนั้นก็ยุ่งยากและสิ้นเปลืองมากๆ ถ้าจะให้สู้จนวินาทีสุดท้าย เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนท้อค่ะ เห้อถ้าแบบว่างบไม่ถึงเนี้ยเราจะไม่มีโอกาสสวยกันเลยหรอค่ะ เพราะอะไร โทษฟ้า โทษดาวไปเรื่อยแล้วทีนี้ เข้าโหมดดราม่าได้อย่ารวดเร็ว มันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปหรอกค่ะ ความสวยเป็นของที่คู่กับผู้หญิงทุกคน ถึงแม่จะไม่มีงบเราก็สวยได้ไม่แพ้ใคร สวยแบบชิวๆ ไงค่ะ แล้ววันนี้นะค่ะวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการ "เผยผิวหน้ากระจ่างใส" ให้สาวๆ ได้รู้กันค่ะ สำหรับ เคล็ดลับการ "เผยผิวหน้ากระจ่างใส"  นี้ก็เป็นเคล็ดลับง่ายๆ ไม่สิ้นเปลืองและไม่ยุ่งยากอะไร ต่อไปนี้เคล็ดลับนี้แหละค่ะจะช่วยให้สาวๆ เผยผิวหน้ากระจ่างใส ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

7 เคล็ดลับการ "เผยผิวหน้ากระจ่างใส"

ขั้นที่1 ล้างเครื่องสำอางค์
มี ทั้งแบบออยล์ แบบน้ำนม ครีม เจล มูส จะใช้แบบไหนก็แล้วแต่ผิวหน้าแต่ละคน สาวๆจำเป็นอย่างยิ่งต้องล้างหน้าให้สะอาด เหตุที่สิวขึ้นก็มีส่วนจากการที่เราล้างหน้าไม่สะอาด และส่งผลให้ครีมบำรุงที่เราประโคมทากันเข้าไปซึมซาบถึงผิวหนังได้ไม่ดี บำรุงยังไงก็ไม่ถึงชั้นผิวหนังอยู่ดี ถ้าเราล้างหน้าอย่างสะอาดครีมที่เราทาก็จะมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น etude house   

ขั้นที่2 สบู่ โฟม เจลล้าง
เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่อุดตันรูขุมขน เลือกใช้ตามสภาพผิวหน้าของแต่ละคน หรือเพื่อปรับผิวขาว ผิวแพ้ง่าย

ขั้นที่3 โทนเนอร์ - โลชั่น
โทน เนอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างจากการล้างหน้า เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดผิวและยังช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าอีก ด้วย ที่สำคัญควรใช้แบบที่ไม่ผสมแอลกฮอล์ ต้องเลือกดูให้ดีๆ แล้วใช้โลชั่นเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกที

ขั้นที่4 เอสเซนส์ เซรั่ม
เอสเซ้นส์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เซรั่มจะมีความเข้มข้นมากกว่า จะช่วยลดริ้วรอย กระชับใบหน้าให้เรียบเนียน

ขั้นที่5 บำรุงรอบดวงตา
จะ มีแบบเพื่อลดริ้วรอยและเพื่อลดรอยคล้ำใต้ดวงตา ซึ่งจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ เด๊ยวอีกหน่อยรอยตีนมามาครีมอะไรก็เอาไม่อยู่นะจ๊ะ

ขั้นที่6 เดย์ครีม ไนท์ครีม
ครีมบำรุงกลางวันและครีมบำรุงกลางคืน ส่วนมากเนื้อครีมจะเหนียว และส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้กับผิว etude house   

ขั้นที่7 ครีมกันแดด
เพื่อ ป้องกันรังสียูวี และไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ควรทาเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวให้คงความผิวกระจ่างใสอยากผิวหน้าสวยใส ต้องหมั่นใส่ใจตัวเองนะจ๊ะ…

ที่มา...n3k.in.th