วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การทดสอบสารแพ้เครื่องสำอาง







การทดสอบสารแพ้
เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสารเคมีจาก ภายนอกร่างกาย เมื่อนำมาใช้กับร่างกายจึงมีโอกาสเกิดปฏิกิริยาต่างๆ กับร่างกายได้ ปฏิกิริยาต่างๆที่ร่างกายไม่ต้องการ เรียกว่า การแพ้ การแพ้ที่พบบ่อยจากากรใช้เครื่องสำอางจะเป็นลักษณะ ผื่นแพ้ (Contact dermatitis) เกิดได้ หลายๆแบบ คือ ผื่นแดงนูน ตุ่มน้ำใส หรือมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่ใช้ บริเวณของร่างกายที่มีดอกาสแพ้ได้มากที่สุด คือ บริเวณใบหน้าและที่เปลือกตา เพราะเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางที่สุด
สาร บางชนิดในเครื่องสำอางอาจเกิดการแพ้เป็นรอยด่างดำหรือเกิดรอยด่างดำ เมื่อทาสารนั้นแล้วไปถูกแสงแดดได้ สารที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางแล้วทำให้เกิดการแพ้ได้บ่อยคือ เครื่องสําอางเกาหลี น้ำหอม สารกันบูด และน้ำยาย้อมผม
การทดสอบว่าสารตัวไหนที่ทำให้เกิดการ แพ้ เรียกว่า การทำแพ็ทเทสต์ (Patch test) โดยการเอาสารที่สงสัย มาทาไว้ที่ผิวหนังและดูผลว่ามีผื่นเกิดขึ้นหรือไม่ การทำแพ็ทเทสต์ มี 2 วิธี คือ
1. Open patch test
เป็นการทดสอบโดยการ เอาสารมา ทาไว้ที่บริเวณท้องแขน หลัง หรือ หลังหู ขนาด 1 ตาราง เซนติเมตร โดยไม่มีการ ปิดทับด้วยวัสดุใดๆ  สารที่ นำมาทดสอบด้วยวิธีนี้ มักเป็นสารที่มีประวัติให้ความระคายเคืองหรือเกิดการแพ้ได้บ่อบ เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาดัดผม แต่ถ้าเป้นสารที่เกิดปฏิกิริยามาก อาจทำการเจือจางเสียก่อน โดยให้ลดความเข้มข้นลงเหลือ 1 ใน 10 ก็พอ สารที่ทให้ระคายเคืองมักจะอ่านผลภายใน 12 ชั่วโมง ส่วนสารที่ทำให้เกิดการแพ้นั้นจะแสดงปฏิกิริยาภายใน 48 ถึง 72 ชั่วโมง หรือทำการทดสอบง่ายๆ โดยการทาสารนั้นที่ใบหูทุกวันติดต่อกันนานประมาณ 10 วัน
2. Close patch test
เป็นการทดสอบโดยใช้ผ้าก๊อซและแผ่นพลา สเตอร์ที่มีสารเคมีหรือสารตัวอย่าง ที่จะทำการทดสอบ และนำมาติดที่ผิวหนัง ถ้าทำจำนวนน้อยก็อาจทำบริเวณต้นแขน หรือทำบริเวณแผ่นหลังในกรณีที่ต้องการทดสอบสารจำนวนมาก และจะอ่านผลหลังจาก 48 ชั่วโมง จะดึงแผ่นที่แปะออกและดูว่าบริเวณที่แปะมีอาการแพ้หรือไม่ อาการแพ้อาจเกิดที่บริเวณอื่นที่ไม่ได้ติดแผ่นทดสอบก็ได้ การทดสอบสารบางอย่างอาจจะมีการฉายแสงดดยใช้หลอดไฟ  Mercury arc lamp เพื่อใช้แทนแสง UV ด้วย หากมีปฏิกิริยาการแพ้เกิดขึ้นเรียกว่า Photoallergic contact dermatitis
การรักษาอาการ แพ้จากเครื่องสำอาง

1. หยุดการใช้เครื่องสำอางนั้นทันที และพยายามเช็ดหรือชะล้างบริเวณที่ใช้เครื่องสำอางนั้นให้สะอาดที่สุดเท่าที่ จะทำได้ โดยปกติอาการแพ้ไม่รุนแรงมากนัก หลังจากนั้นสังเกตุดูว่ามีอาการแพ้ลุกลามมากขึ้นอีกหรือไม่ โดยมากมักจะหายภายใน 7-10 วัน แต่หากมีอาการรุนแรงควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
2.หลีกเลี่ยง สิ่งที่แพ้ เมื่อทราบสาเหตุว่าแพ้เครื่องสำอางชนิดใดหรือสารเครื่องสําอางเกาหลี ที่เป็นส่วนผสมในเครื่อง สำอางนั้น ควรงดใช้หรือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
3.รักษาอาการแพ้ให้ หาย หากเป็นผื่นแดง หรือเป็นตุ่มบวม หรือเป็นตุ่มน้ำใสมีน้ำเหลืองซึมออกมา ก็ควรทำความสะอาดแผลและใส่ยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการอักเสบเป็นหนอง นอกจากนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจดูว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้น จากการแพ้เครื่องสำอางหรือไม่ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เพื่อรักษาและหยุดปฏิกิริยาการแพ้ให้หายโดยเร็วที่สุด

ที่มา..piggygaga.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น