วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การเลือกแป้งผสมรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว







แป้ง ผสม รองพื้นคือ เนื้อรองพื้นผสมกับแป้งแล้วผ่านกรรมวิธีทำให้แห้งเป็นแป้งนั่นเอง และแป้งผสมรองพื้น มีอยู่หลายแบบให้เลือกในท้องตลาดมากมาย ทำมาเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการแต่งหน้าโดยไม่ต้องลงรองพื้น ซึ่งเป็นปัญหามากกับการเลือก ของสาวๆจริงหรือไม่ แป้งผสมรองพื้นยังจำแนกออกตามเนื้อแป้ง และลักษณะการใช้ได้อีกหลายชนิด เอาแบบกลุ่มใหญ่ๆตามเนื้อแป้งละกันนะคะ

แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมท   
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่นนี้ เหมาะสำหรับผิวมัน ผิวผสม เนื้อแป้งของรุ่นนี้จะมีลักษณะเบาค่อนข้างบาง ปริมาณรองพื้นที่ผสมค่อนข้างเบากว่ารุ่นอื่น เมื่อใช้นิ้วสัมผัสจะมีความลื่นค่อนข้างน้อย แล้วเมื่อทาลงบนข้อมือจะร่วงไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดีนะคะ   ตามหลักคือยิ่ง ผสมรองพื้นมากยิ่งทำให้หน้ามันมากนั่นเอง แป้งรุ่นนี้จึงเนื้อไม่ค่อยจะเกาะผิวหน้าเท่าไหร่เวลาทาเริ่มแรก ต้องอาศัยการทาพิถีพิถันเล็กน้อย

แป้งผสมรองพื้นเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์หรือเพิ่มความชุ่มชื่น
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่นนี้เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้ง เนื่องจากมีสารให้ความชุ่มชื่นของแต่ละแบรนด์ใส่ลงไป  เนื้อแป้งเวลาใช้นิ้วสัมผัสจึงรู้สึกได้ว่าลื่น เนียน ละเอียด ติดนิ้ว มากกว่ารุ่นอื่นๆ ไม่ใช่เพราะความละเอียดกว่าแป้งแมท เป็นเพราะความชุ่มชื้นในเนื้อแป้งต่างหากแป้งรุ่นนี้จะผสมรองพื้นได้ไม่ จำกัด จึงทาละดูเนียนทันที ปกปิดระดับสูง แป้งรุ่นนี้จึงมีเนื้อหนากว่ารุ่นเนื้อแมทเป็นส่วนใหญ่

แป้งผสมรองพื้นเนื้อกึ่งแมทกึ่งชุ่มชื่น                                       
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่น นี้เนื้อรองพื้นจะอยู่ในปริมาณกลางๆ ใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว ซึ่งแล้วแต่ในแต่ละแบรนด์จะทำออกมาในแนวไหนค่ะ  เมื่อใช้นิ้วสัมผัสแป้งรุ่นนี้จะรู้สึก เนียนปานกลาง แล้วเอามาทาตรงข้อมือหรือท้องแขนตามแบบพนักงานลองให้  จะเกาะผิวปานกลางค่ะเหมาะสำหรับผิวธรรมดา

แป้งผสมรองพื้นไวท์เทนนิ่ง                                          
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่น นี้จะออกมาพร้อมกับชุดไวเทนนิ่งของแต่ละแบรนด์ มีคุณสมบัติคือ ปกป้องแสงแดดในระดับสูง ทำให้ผิวดูกระจ่างใส สีแป้งรุ่นนี้จึงดูขาวกว่าทุกรุ่นค่ะ เนื่อจากมีส่วนผสมของสารกันแดดในปริมาณสูง น่าจะมากกว่า SPF มากกว่า30  ขึ้นไปในแต่ละแบรนด์ ต้องบอกว่ายิ่งแป้งที่มีสารกันแดด มากเท่าไหร่ ยิ่งขาว และยิ่งทำให้หน้ามันค่ะ เนื่องจากมีไททาเนียมไดออกไซด์ปริมาณสูง สารตัวนี้จะเคลือบผิว ยิ่งมีเยอะยิ่งเคลือบเยอะ อุดตัน การเลือกแป้งรุ่นนี้จึงไม่ควรเลือกค่า SPF สูงจนเกินไปนะคะ และแป้งรุ่นนี้จะทาค่อนข้างยาก สาวๆจะพบกับปัญหาคือ ระหว่างวันแป้งรุ่นนี้ถ้าไม่มีฝีมือขั้นเทพเเป้งเป็นคราบแน่นอน ถ้าผิวมันควรหลีกเลี่ยงแป้งรุ่นนี้นะคะ

แป้งผสมรองพื้นผสมใยไหม                                                    
แป้ง ผสมใยไหมมี คุณสมบัติทำให้แป้งเมื่อทาลงไปจะเรียบเนียน เข้ากับผิวทันทีค่ะ คุณจะสัมผัสได้ถึงความลื่น เบา  เวลาสัมผัสด้วยนิ้ว เหมือนเวลาคุณสัมผัสผ้าไหมน่ะค่ะ ทำให้แป้งรุ่นนี้ติดทนนาน  ดูดซับความมันได้ดี  ชุ่มชื่นค่ะ ค่อนข้างที่จะใช้ได้กับทุกสภาพผิว มีข้อเสียคือ เนื้อแป้งที่ผสมใยไหมเมื่อทาไปจะรู้สึกเรียบเนียนแต่หน้าจะแลดูเงา วาว ไม่ใช่มันนะคะดูสะท้อนแสงทำให้เหมือนดูมัน เนื่องจากไหมนั่นเอง สังเกตุง่ายๆผ้าไหมจะมีความวาวและเงาไงคะ

แป้งผสมรองพื้นผสมทองคำและอัญมณี                                  
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่น นี้มีคุณสมบัติให้หน้ากระจ่างใส สะท้อนแสงทำให้หน้าดูโดดเด่นขึ้น เพราะทองคำช่วยให้แป้งมีการกระจายแสงดีขึ้น ทำให้ผิวลื่น แป้งเกาะผิวหน้าดี เมื้อสัมผัสเนื้อแป้งด้วยนิ้วจะลื่นๆ เนียนๆ เพราะมีผงทองคำค่ะ และเมื่อเอาแป้งไปวางไกล้แสงไฟ จะพบว่าแป้งมีเกล็ดวาวๆระยิยระยับค่ะ แป้งผสมอัญมณีพวกนี้มีหลายยี่ห้อทำ ที่บอกไปจะช่วยให้หน้าดูโดดเด่น สะท้อนความกระจ่างใสค่ะ

แป้งผสมรองพื้นผสมแร่ธรรมาชาติมินอรัลและอื่นๆ
แป้ง ผสมรองพื้นรุ่น นี้ เนื้อจะเนียนไกล้เคียงกับ แป้งไยไหมค่ะความเนียน ความลื่น ความละเอียดเนื้อแป้ง แป้งมีคุณสมบัติว่ากันว่าช่วยให้ผิวไม่อุดตัน เกี่ยวกับสิว แต่จนแล้วจนรอดคนที่ได้ใช้ก็ยังพบว่ามีสิวขึ้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน นะคะ  ส่วนใหญ่ทำมาเพื่อผิวมัน เนื้อแป้งจากแร่นี้มีคุณสมบัติดูดซับความมันได้ดีค่ะ เงา วาว เหมือนไยไหม แต่เนื้อแป้งทาไปค่อนข้างแห้งมาก คนที่ผิวแห้งทาระหว่างวันหน้าคุณจะเป็นริ้วๆ ตามใต้ตา มุมปาก และหางตาได้ง่ายค่ะ     

ก่อน ที่จะเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์ หลายๆคนอาจมีการทดลองก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเลือกรองพื้นที่มีสีเดียวกับใบหน้าและทาเรื่อยมาจนถึงลำคอ นั่นอาจทำให้รองพื้นเลอะเปื้อนเสื้อผ้าจนเป็นคราบได้ ดัง นั้นเราจึงควรทดลองทารองพื้นใน บริเวณแนวขากรรไกรก่อน เพื่อเทียบให้สีที่เราเลือกมีสีเดียวกับใบหน้าและลำคอ แล้วรอจนแห้ง หากสังเกตเห็นสีที่ลอยเด่นออกมาจากผิวคุณ นั่น แสดงว่ารองพื้นสีนั้นไม่เหมาะกับคุณเสียแล้วล่ะและเพื่อเลือกเฉดสีให้ใกล้ เคียงกับสีผิวจริง บวกกับเป็นการทดสอบอาการแพ้ของผิวด้วยว่า คุณเหมาะกับรองพื้นแบบไหน มีหลักอยู่ 3 ประเภท คือ

1. Liquid Foundation รองพื้นบางเบาเหมาะสำหรับ natural look เพราะเกลี่ยง่าย

2. Cream Foundation มัก นิยมใช้ปกปิดผิวที่มีปัญหา ให้ความบางเบาแล้วยังปกปิดได้ดีเยี่ยม ซึ่งเมคอัพอาร์ติสต์ส่วนใหญ่ นิยมใช้กับผิวที่ต้องการความสวยสมบูรณ์แบบ และต้องการการปกปิดที่ดี

3. Powder Foundation เป็นการผสมผสานกันระหว่างแป้งและรองพื้น ใช้เติมระหว่างวันเพื่อลดความมันเงาของใบหน้า ซึ่งมีอยู่ในรูปแบบของแป้งรองพื้นและครีมรองพื้นชนิดแป้ง เหมาะสำหรับผิวมัน

วิธีการเลือกรองพื้นสำหรับสาวยุคใหม่
คุณ สาวๆ ทั้งหลายค่ะ เคยสงสัยกันบ้างไม๊ว่า ทำมั้ย...ทำไม เหล่าบรรดาดารา นางแบบที่โลดแล่นอยู่บนหน้าจอ ทำไมพวกเธอถึงได้มีใบหน้าที่เนียนใส สมบูรณ์แบบขนาดนั้น คำตอบคือ การพิถีพิถันและการไม่ละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการแต่งหน้า และหากพูดถึงความเรียบเนียนของใบหน้า หลายๆ คนคงนึกถึง "Foundation" หรือ "รองพื้น" ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกปิดสิ่งบกพร่องต่างๆ แต่รองพื้นนั้นมีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นชนิดน้ำ ครีม แป้ง ว่าแต่ว่ารองพื้นแบบไหนกันล่ะที่เหมาะกับตัวเรา แต่เรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากค่ะ

1. เช็ดว่าผิวของเราเป็นผิวประเภทใด เพราะ ประเภทของผิวจะสัมพันธ์กับการเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ ซึ่งถ้าเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว นอกจากจะทำให้คุณได้ผิวหน้าที่เรียบเนียนแล้ว ยังทำให้คุณดูสวยใสตลอดวัน ไม่เกิดปัญหาหน้ามันเงา หรือใบหน้าหมองคล้ำอันเกิดจากปฎิกิริยาของรองพื้น รวมตัวกับน้ำมันของผิว

ผิว มัน คนผิวมันมักมีรูขุมขนที่กว้าง ฉะนั้นการเลือกรองพื้นต้อง เน้นทีความบางเบา สามารถควบคุมความมันและอำพรางรูขุมขนได้ ควรเป็นประเภท oil free ที่มีคุณสมบัติในการลดความมันเงา แต่ให้ความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ เพราะผิวมันก็ยังคงต้องการความชุ่มชื้นให้กับผิวในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน

ผิว แห้ง คนที่มีผิวแห้งมันมีโอกาสที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ควรเลือกรองพื้นที่ความชุ่มชื้น แต่ไม่มีความมันบนใบหน้า เนื้อสัมผัสบางเบา หากหนาจะทำให้ยิ่งเพิ่มความเด่นชัดของริ้วรอยมากขึ้น

ผิวผสม ผิวผสมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
1. บริเวณ T-zone มัน แต่ข้างแก้มเป็นผิวแห้ง
2. บริเวณ T-zone มัน แต่ข้างแก้มเป็นผิวธรรมดา
3. Oily with dry surface เป็นผิวที่ค่อนข้างจะดูแลยาก เพราะผิวด้านบนจะแห้ง แต่ชั้นใต้ผิวจะมัน การเลือกรองพื้นสำหรับสาวผิวผสมในแบบที่ 1 / 2 ควรเน้นการเลือกรองพื้นที่ เน้นการให้ความชุ่มชื้นในสองข้างแก้มให้มาก ซึ่งเวลาทาควรเน้นที่สองข้างแก้ม และทาในบริเวณ T-zon แต่น้อย เพื่อไม่ไปเพิ่มความมันเงาในบริเวณนี้ สำหรับผสมแบบที่ 3 ควรมองหารองพื้นเนื้อบางเบาและมึความชุ่มชื้น

ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าทดสอบแล้ว ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง ซึ่งมักระบุว่า "allergy-tested"

 ผิว มันและเป็นสิว หรือผิวแห้งแต่เป็นสิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับสิว หรือที่มีส่วนผสมของ Acne Oil Control ช่วยลดสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว พร้อมกับไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและมอบความชุ่มชื้นให้กับผิว

2. พิจารณาถึงระดับของปัญหาผิว ที่คุณประสบ เช่น หากคุณมีริ้วรอยมากควรเลือกแบบที่ให้การปกปิดที่ดีแต่บางเบา เพราะหากเวลาทาแล้วหนาจะเป็นการเน้นริ้วรอยให้เด่นชัดยิ่งขึ้น หรือใครที่มีปัญหาเฉพาะจุด อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รองพื้นเฉพาะที่ หรือ concealer

3. พิจารณาโทนสีผิวของคุณ ควรเลือกรองพื้นที่ใกล้เคียงกับสีผิว จะทำให้คุณมีใบหน้าที่แลดูเป็นธรรมชาติ แต่ในทางกลับกันหากใช้สีที่ไม่เหมือนกับสีจริง อาจทำให้คุณประสบปัญหาสีผิวโอเวอร์ หรือหน้าลอยเด่นหรือยิ่งทำให้จุดบกพร่องบนใบหน้าคุณยิ่งเด่นชัดมากขึ้น

ส่วนในเรื่องของแป้ง ก็มักจะแบ่งตามการใช้งานของผู้ใช้ ผู้หญิงบางคนที่มีผิว มันและต้องการควบคุมความมันเป็นพิเศษ ก็ควรมองหาแป้งผสมรองพื้นแบบใหม่ที่เป็นเนื้อครีม แต่พอแห้งแล้วจะกลายเป็นเนื้อแป้งที่ไม่เลอะเลือนได้ง่ายๆ และควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีแต่ ผู้หญิงบางกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องควบคุมความมันเป็นพิเศษ ก็อาจเลือกใช้แป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสงทาทับครีมรองพื้น เพื่อให้ครีมรองพื้นอยู่ตัวและไม่เป็นมันวาวก็พอ แต่การจะระบุลงไปให้ชัดว่าครีมรองพื้นและ แป้งแบบไหนที่เหมาะกับคุณจริงๆ ก็ควรลองผลิตภัณฑ์พวกนั้นกับผิวหน้าก่อน แล้วคุณจะรู้ได้อย่างชัดเจนว่าแบบไหนหรือสีไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด


ที่มา..weloveshopping

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น